การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพว่าไม่ใช่แนวโน้ม์ใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทว่ากลับเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปัจจุบันท่ามกลางสภาพแวดล้อมของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ที่เต็มไปด้วยมลพิษการกินอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัยและความเครียดที่เกิดจากหลายๆปัจจัยจึงทำให้คนรุ่นใหม่หันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น โดยใช้ความสะดวกง่ายและสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้รักการดูแลสุขภาพ ได้แก่ประเภทกีฬาต่างๆ ดังนี้
1. การปั่นจักรยาน ทางเลือกของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยมอีกทางหนึ่ง การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก หากทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปในทุกวันจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมและพอเพียงที่จะป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ทำให้กล้ามเนื้อกระชับและกระดูกแข็งแรง
2. การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำและปลอดภัยการเดินในชีวิตประจำวันหรือระยะเวลาได้ด้วยตนเอง การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ดี เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่มีอาการปวดเข่าหรือเข่าเสื่อมแต่ถ้าท่าน แข็งแรง และอยากให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น ท่านสามารถออกกำลังกายโดยการเดินเร็ว เดินขึ้นที่ชันหรือเดินขึ้นบันได การเดินด้วยความเร็วประมาณ 6 กม./ชม.จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 440 กิโลแคลอรี
3. การวิ่งเพื่อสุขภาพ ต่างกับการวิ่งแข่งขันเพราะเป็นการวิ่งเหยาะๆ การวิ่งเพื่อสุขภาพทำได้ง่ายเพราะไม่มีเทคนิคที่ ซับซ้อน และอันตรายน้อยเมื่อเทียบกับการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายแบบอื่นถ้าวิ่งได้คุยได้และมีเหงื่อออกพอควร ก็ถือว่าความเร็วระดับนั้นใช้ได้ไม่ควรพยายามก้าวเท้าให้ยาวออกไป เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
4. การเต้นแอโรบิก เป็นกิจกรรมที่แพร่หลายในยุคปัจจุบันเนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทำไปพร้อมเสียงเพลงทำให้สนุกสนานและลดความเบื่อหน่ายจากการออกกำลังกาย และลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย การเต้นแอโรบิกมีข้อจำกัดเหมือนกับกีฬาชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะท่าที่จะใช้นำมาเต้นออกกำลังกายกับจังหวะเพลงมีมากไม่จำกัดท่าดังนั้นท่าอันตรายที่ต้องระวังคือท่าที่เกี่ยวกับการย่อ ยืด กระตุกบริเวณหัวเข่า หลีกเลี่ยงการหมุนข้อต่อเชื่อมกับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
5. คีตะมวยไทยแอโรบิก เป็นกิจกรรมที่มีความตื่นเต้นและสนุกสนาน พร้อมด้วยลักษณะของการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอกเสมือนหนึ่งเป็นการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยมวยไทยยังมีเสียงดนตรีที่คอยกระตุ้นปลุกเร้าใจและมีประโยชน์ในหลายๆด้าน
6. ว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีอัตราการบาดเจ็บต่ำ เนื่องจากมีแรงดันน้ำคอยพยุงตัวช่วยรับน้ำหนักตัว ยิ่งไปกว่านั้น การออกกำลังกายในน้ำหรือว่ายน้ำยังช่วยส่งเสริมสมรรถนะปอดและหัวใจ
7. โยคะ เป็นกิจกรรมการออกกำลังที่ใช้ร่างกายและสมาธิในการปฏิบัติซึ่งเหมาะกับคนทุกวัย โยคะจะช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆอีกทั้งรวมทั้งต่อมไร้ท่อทำงานดีขึ้น
8. การเต้นบาสโลม เป็นกิจกรรมการเต้นเป็นหมู่คณะ ซึ่งใช้ท่วงท่าการเต้นรำพร้อมเสียงเพลง ซึ่งเต้นได้ทั้งชายและหญิงในทุกเพศทุกวัยซึ่งการเต้นบาสโลมเป็นการเต้นที่ช่วยในเรื่องของระบบหัวใจไหลเวียนโลหิตให้แข็งแรงขึ้น
9.การออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัว(body weight) เป็นการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัวเราเอง นอกจากความสะดวก ทำได้เองที่บ้าน ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่การออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัวกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์น่าตื่นเต้นเป็นการผนวกการเผาผลาญและเพิ่มประสิทธิภาพ
10. กระโดดเชือก เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินวาทะกรรมที่กล่าวถึงการกระโดดเชือกในแง่ลบที่ว่า กระโดดมากๆ อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วจากแรงกระแทกที่สูงในขณะที่กระโดด แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว หากเรากระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
กรมอนามัยแนะนำให้ประชาชนคนไทย ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วันวันละ 30 นาทีโดยกินอาหารสุขภาพที่ถูกหลักโภชนาการกินผักผลไม้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอลดอาหารหวานมันเค็มรวมถึงออกกำลังกายผ่อนคลายจิตใจ และพักผ่อนให้เพียงพอเชื่อว่าจะทำให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่แข็งแกร่ง