กิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆ ชื่นชอบ คือ การเล่นน้ำ ในช่วงหน้าร้อนทั้งสระว่ายน้ำ สวนน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวตามน้ำตก และแหล่งน้ำธรรมชาติ บ่อหรือคลอง จะได้รับความนิยมเป็นสถานที่พักผ่อน
หย่อนใจของครอบครัว แต่อุบัติเหตุ การจมน้ำทำให้ความสนุกสนานกลายเป็นเรื่องเศร้า เพราะบางรายถึงขั้นเสียชีวิตในรอบ 10 ปี (ปี 2546-2556) พบตัวเลข ที่น่าตกใจ มีเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15
ปี เสียชีวิต จากการจมน้ำ เฉลี่ยปีละ 1,388 คน หรือวันละ4 คน โดยเกิดเหตุตามแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด รองลงมาคือ สระว่ายน้ำและอ่างอาบน้ำ ซึ่งสาเหตุ การจมน้ำนั้น เกิดจากการที่เด็กลง
ไปเล่นน้ำ และไม่ได้เล่นน้ำ เช่น การเล่นบริเวณใกล้ๆ แหล่งน้ำ จนพลัดตกน้ำ
ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษและไม่ควรปล่อยให้ลูกหลานเล่นน้ำตามลำพัง ซึ่งวิธีการดูแลและข้อควรระวังเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ ทำได้ ดังนี้
เด็กอายุ 1-4 ปี จะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำในแหล่งน้ำบริเวณรอบบ้าน
ผู้ปกครองควรดูแลเด็กใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ เด็กเล่นน้ำในสระน้ำตามลำพัง สร้างสภาพแวดล้อม ภายในบ้านให้ปลอดภัยด้วยการปิดประตูห้องน้ำ ให้สนิท จัดให้มีฝาปิดหรือครอบภาชนะ
กักเก็บน้ำ ทำรั้วกั้นบริเวณรอบบ่อน้ำ ไม่ให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำ หรือริมตลิ่งน้ำ เพราะเด็กอาจลื่นตกน้ำได้
เด็กอายุ 5-17 ปี จะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำและเสียชีวิตบริเวณแหล่งน้ำในชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็น และดูแลเด็ก ใกล้ชิดขณะเล่นน้ำ หากเด็กเป็น
ตะคริวหรือถูกคลื่นน้ำดูดจะได้ช่วยเหลือเด็กได้ทันท่วงที กรณีพาเด็กไปท่องเที่ยวทางน้ำ ควรให้เด็ก สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งจะได้ใช้พยุงตัวรอการช่วยเหลือ กรณีเรือล่มหรือพลัดตกน้ำ
การป้องกันตนเองสำคัญที่สุดสำหรับเด็กควรสนับสนุนให้เด็กเรียนหรือฝึกว่ายน้ำ เพื่อให้มีความรู้และทักษะการเอาชีวิตรอด พ่อแม่ ผู้ปกครองควรมีความรู้การช่วยเหลือเด็กเมื่อเกิดเหตุ
ขณะเล่นน้ำ
การเล่นน้ำในสระว่ายน้ำเด็กๆควรปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือข้อบังคับต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจมน้ำ