“ปัสสาวะ” ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนเราทุกคนเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน แต่การจะปัสสาวะอย่างไรให้ถูกวิธี หรือที่เรียกว่าปัสสาวะเป็นและถูกต้องหลายคนยังไม่ทราบ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากโดยมีหลักและข้อควรรู้ที่ปฏิบัติตามได้ดังนี้
- อย่ากลั้นปัสสาวะเมื่อรู้สึกปวด
- เวลาปัสสาวะไม่ควรรีบร้อน หรือเบ่งมากจนอาจเป็นสาเหตุทำให้หูรูดปัสสาวะชำรุดได้
- ควรถ่ายปัสสาวะให้เหลือน้อยที่สุดใน1 ครั้งนั่นคือเมื่อรู้สึกถ่ายหมดแล้วให้เบ่งต่ออีกนิดหน่อย ปัสสาวะที่เหลือจะไหลออกมา
- ไม่ควรบังคับให้ตัวเองถ่ายปัสสาวะบ่อยๆควรถ่ายปัสสาวะทุก 2-4 ชั่วโมง
- ให้สังเกตการถ่ายปัสสาวะและน้ำปัสสาวะของตนเองทุกครั้งว่า ต้องเบ่งมาก ผิดปกติหรือไม่น้ำปัสสาวะพุ่งดีหรือไม่ และต้องดูว่าน้ำปัสสาวะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมหรือไม่ หรือออกมาเป็นหยดๆ ออกลำบาก น้ำปัสสาวะมีสีเหลืองใสหรือไม่เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นอาการผิดปกติที่สามารถบอกโรคได้
- การล้างทำความสะอาดหลังปัสสาวะโดยเฉพาะผู้หญิงอย่าให้บริเวณนั้นเปียกแฉะชื้น เพราะอาจเกิดเชื้อราได้ ทางที่ดีหลังปัสสาวะทุกครั้งต้องซับให้แห้ง
- เมื่อปัสสาวะไม่ออก ต้องหาสาเหตุโดยการพบแพทย์ อย่าซื้อยาขับปัสสาวะมากินเอง เพราะอาจเกิดอันตรายได้
- เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน การบริหาร อุ้งเชิงกราน โดยการขมิบ (ผู้หญิงให้ขมิบ ช่องคลอด ผู้ชายให้ขมิบทวารหนัก วันละ 100 ครั้ง จะช่วยป้องกันอาการปัสสาวะเล็ด)
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว(แก้วละ 250 ซีซี) จะช่วยทำให้น้ำปัสสาวะใสมีจำนวนพอดี และป้องกันภาวะอักเสบ
- การมีเพศสัมพันธ์และหลังมีเพศสัมพันธ์ผู้หญิงควรถ่ายปัสสาวะทิ้งจะช่วยป้องกันการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ก่อนเดินทางไกลก่อนยกของหนัก ควรปัสสาวะก่อนทุกครั้ง
ลองปฏิบัติตามกันดู ควบคู่กับการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง