สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยใส่ใจสุขภาพช่องปาก และฟัน โดยระบุว่า เนื่องในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี คือวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ สำหรับตลอดปี 2567 ทางสำนักทันตสาธารณสุข อยากให้คนไทยทุกคน “สุขภาพฟันดี ดูแลเองได้” โดยไปใช้สิทธิตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเพื่อรับทราบปัญหาและดูแลรักษาช่องปากและฟันได้ตามช่วงวัย
.
ทั้งนี้ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าคนไทยทุกคนสามารถเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากได้ฟรี โดยครอบคลุมทุกกลุ่มวัย ทุกสิทธิการรักษา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิประกันสังคม ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือผู้มีสิทธิในหลักประกันสุขภาพอื่น ๆ โดยบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก ได้จัดหมวดหมู่สิทธิประโยชน์ตามช่วงวัย ดังนี้
.
1) หญิงตั้งครรภ์: สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก, ขัดและทำความสะอาดฟัน
.
2) เด็กเล็ก 0-5 ปี: สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก, ให้บริการเคลือบฟลูออไรด์
.
3) เด็กโต และวัยรุ่นอายุ 6-24 ปี: สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก, เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟันสำหรับฟันกรามน้อยและกรามถาวร
.
4) ผู้ใหญ่อายุ 25-59 ปี: สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก ขัด และทำความสะอาดฟัน สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ สามารถเข้ารับบริการทาฟลูออไรด์บริเวณผิวรากฟันได้ และในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก
.
5) ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป: สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก, ขัดและทำความสะอาดฟัน, สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ สามารถเข้ารับบริการทาฟลูออไรด์บริเวณผิวรากฟัน และสามารถเข้ารับบริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็ง และมะเร็งช่องปากได้เช่นกัน
.
“เพราะสุขภาพช่องปากและฟัน คือประตูสู่การมีสุขภาพดี สามารถทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ครบถ้วน เจอปัญหาเร็วรักษาได้ทัน ไม่กระทบการการดำเนินชีวิตประจำวัน ลดโอกาสสูญเสียฟัน มีบุคลิกดีด้วยรอยยิ้มที่สดใสมั่นใจ ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักจากการบดเคี้ยวไม่มีคุณภาพ นอนหลับได้ดีขึ้นไม่ต้องทนกับการปวดฟัน เป็นต้น
.
“ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจึงอยากให้คนไทยทุกคนหมั่นรับการตรวจ โดยทุกคนสามารถเข้ารับบริการตามสิทธิได้ฟรี ที่หน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานพยาบาลตามสิทธิ โรงพยาบาลหรือคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถตรวจสอบหน่วยบริการใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สปสช. หรือสายด่วนสปสช. 1330 “