กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ร้านอาหารโซนสีแดงเข้ม ย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 พร้อมแนะแนวทางการจัดพื้นที่ ให้นั่งกินในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% เพื่อลดการแออัด ลดการติดและแพร่เชื้อของ โควิด-19
วันนี้ (19 พฤษภาคม 2564 ) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยหลังลงพื้นที่เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในร้านอาหารและแนวทางการจัดพื้นที่ให้นั่งกินในร้านได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ ณ ครัวริมน้ำท้ายเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่า จากมาตรการผ่อนคลายของศูนย์บริหารสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม โดยจำกัดคนนั่งได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติ ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและประชาชนบางราย ยังมีความสงสัยต่อมาตรการดังกล่าว ซึ่งวัตถุประสงค์หลักในการกำหนดมาตรการเพื่อเป็นการลดความแออัด และลดความเสี่ยงในการติดหรือแพร่กระจายเชื้อ โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร จึงต้องจำกัดจำนวนของผู้ใช้บริการให้มีเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายถึงว่า หากภายในร้านมีที่นั่งสามารถรองรับลูกค้าได้ 100 คน ก็จะจำกัดจำนวนการให้บริการได้เพียง 25 คน และแต่ละคนนั่งกินได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนมากเกินกว่าการรองรับของบางร้านอาหาร ให้โทรสอบถาม หรือหาข้อมูลจากร้านอาหารว่าเพียงพอต่อการให้บริการในขณะนั้นหรือไม่ และถ้าไม่สามารถรองรับการให้บริการได้แนะนำให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน หรือใช้บริการเดลิเวอรีแทน อีกทั้ง หากสมาชิกในครอบครัวเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือหญิงตั้งครรภ์ ควรเลี่ยงการออกมากินข้าวข้างนอกบ้านในสถานการณ์ช่วงนี้และกินอาหารปรุงสุกร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว
“ทั้งนี้ สถานประกอบกิจการร้านอาหารยังคงต้องคุมเข้มการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1) เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการตามมาตราการป้องกันโควิด-19 2) คัดกรองพนักงานให้บริการ หรือพนักงานขนส่งสินค้าอย่างจริงจังโดยใช้ระบบ Thai Stop COVID Plus และ Thai Save Thai 3) มีระบบติดตามอาการป่วยและพฤติกรรมของพนักงาน โดยดำเนินการเป็นประจำทุกวัน และ4) มีการจัดทำ Timeline ของพนักงานให้บริการและพนักงานจัดส่งสินค้าในแต่ละวัน เพื่อควบคุมวงระบาดได้ในระยะสั้น และทันท่วงที ซึ่งจากข้อมูล Thai stop COVID Plus มีร้านอาหารลงทะเบียนและประเมินตนเองแล้ว จำนวน 17,825 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85 จึงขอความร่วมมือให้ร้านอาหารที่ยังไม่ประเมิน หรือประเมินไม่ผ่าน ดำเนินการในระบบและปฏิบัติตามคำแนะนำ ตามมาตรการร้านอาหารต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 19 พฤษภาคม 2564