ทันตสาธารณสุข

สมเด็จย่าทรงพระเมตตา ให้ปวงประชามีฟันดี “ลดฟันผุเด็กไทย…ด้วยคนในครอบครัว”

  • 13 กันยายน 2562

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงสนพระทัยในเรื่องบริการทันตกรรมเป็นพิเศษได้ทรงกำชับไว้ว่า“ต้องมีทันตแพทย์ไปช่วยชาวบ้านทุกครั้งเนื่องจากคนไข้ในท้องถิ่นทุรกันดาร  เมื่อมีโรคฟันจะต้องทนทุกข์ทรมาน  และไม่สามารถช่วยตนเองได้ ดังนั้น ต้องให้มีทันตแพทย์ไปช่วยโดยด่วน” จากพระปณิธานข้างต้นที่ทรงห่วงใยสุขภาพช่องปากของคนไทย  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีทันตแพทย์ไปปฏิบัติงานร่วมกับแพทย์ใน“หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี”  เพื่อบำบัดความทุกข์ทรมานด้วยโรคในช่องปากของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารเริ่มต้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา

‘ตุลาคม’ เดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทย มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  (พอ.สว.)  ได้ริเริ่มรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข  ครั้งแรกเมื่อวันที่  21  ตุลาคม  2529 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ จนกระทั่งในปี 2532 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้วันที่21  ตุลาคมของทุกปีเป็น “วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ”ทุกๆ  ปีที่ผ่านมากรมอนามัยได้ร่วมกับมูลนิธิพอ.สว.  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐภาคเอกชน  จัดกิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข  เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า  “พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย” เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้กรมอนามัยให้ความสำคัญกับการ  ส่งเสริมให้แม่แปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม ปลอดขนมกรุบกรอบชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากตลอดจนการส่งเสริมให้คนไทยบ้วนปากทุกครั้ง

‘ฟันผุ’ นอกจากจะทำให้ปวดฟันแล้วปัญหาที่ตามมาคือกลิ่นปาก เนื่องจากรูของฟันจะเป็นที่กักเก็บเศษอาหารและเป็นแหล่งที่แบคทีเรียรวมตัวกันอยู่ได้มากที่สุดซึ่งในช่องปากของคนเรามีเชื้อโรคอยู่มากกว่า 600ชนิด งานวิจัยยืนยันว่า ผู้มีรูฟันผุจะมีจำนวนเชื้อโรคในช่องปากมากกว่าคนที่ฟันไม่ผุ  ฟันผุยังมีผลต่อประสิทธิภาพการบดเคี้ยว  โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ  ที่มีฟันผุหลายซี่ในปากจะบดเคี้ยวอาหารได้น้อยกว่าเด็กทั่วไปทำให้เด็กชอบที่จะกินอาหารนิ่มๆ ประเภทแป้งและน้ำตาล ส่งผลให้ขาดใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตสมส่วนตามวัยส่วนผู้ใหญ่ที่สูญเสียฟันจะเกิดภาวะเดียวกันคือขาดสารอาหารที่จำเป็น  เพราะไม่สามารถบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สองมือ…สร้างฟันดีให้ลูก กรมอนามัยได้สำรวจ พบว่า เด็กอายุ 3 ปีมีฟันผุร้อยละ 52 สาเหตุคือเริ่มแปรงฟันช้าและไม่แปรงทุกวันทั้งๆ ที่ต้องทำให้เป็นนิสัย เพราะถึงแม้ว่าเด็กเล็กๆ ที่อายุน้อยกว่า 6 ปี การพัฒนากล้ามเนื้อยังไม่สมบูรณ์  แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรแปรงฟันให้เด็กจนถึงฟันแท้ขึ้นเมื่ออายุ6  ปีโดยให้เด็กเรียนรู้ที่จะแปรงฟันเองตั้งแต่  2ขวบแล้วแปรงซ้ำให้จนสะอาดอย่างน้อยวันละครั้ง 

จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนและการเปลี่ยน พฤติกรรมขณะท้อง แต่ในช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่ก็สามารถดูแลให้ลูกในครรภ์มีฟันดีได้ เพราะ ฟันน้ำนมจะมีการสร้างตั้งแต่อายุครรภ์มารดาได้ 6 สัปดาห์คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกคนไปตรวจสุขภาพช่องปากและขอคำแนะนำในการดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้หญิงมีครรภ์มีสิทธิ์ในการรับการตรวจช่องปาก  มีทักษะดูแลความสะอาดฟันของหลานและฝึกแปรงฟัน ดูแลตนเอง และได้รับการขูดหินน้ำลายเพื่อลดการ แบบลงมือทำพร้อมๆ กัน ผ่านไป 1 ปี ผู้สูงอายุ อักเสบ เพื่อช่วยเรื่องสุขภาพทั้งของแม่และลูก เหล่านี้ทำให้ลูกหลานมีฟันผุลดลงถึง 7 เท่า ในคราวเดียวกัน โดยสามารถทำได้อย่างปลอดภัย สิ่งที่จะช่วยป้องกันฟันผุในเด็กอีกทางหนึ่ง แม่ตั้งครรภ์จะมีอาการแพ้ท้อง อาเจียน  คือห้ามไม่ให้มีน้ำตาลในขวดนมเด็กเด็ดขาด ไม่ว่า การอาเจียนทำให้น้ำลายในช่องปากเป็นกรด จะเป็นนมรสหวาน น้ำผลไม้ น้ำหวาน และต้อง การหมั่นบ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเปล่า ผงฟูเล็กน้อยผสมน้ำเปล่าบ้วนปากจะช่วยให้ น้ำลายเป็นกลางมากขึ้น เป็นการลดอัตราการฟันผุของหญิงตั้งครรภ์ได้

ทุกครอบครัวควรใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก สิทธิ์หญิงตั้งครรภ์..ดูแลช่องปากฟรีตนเองและเด็ก  เพื่อลดปัญหาโรคฟันผุ โดยใช้โอกาสสำคัญเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ 21 ตุลาคม เป็นวันเริ่มต้นสิ่งดีๆ พร้อมๆ กัน

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH