การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ทำให้ หัวใจฟูทั้งครอบครัว

  • 1 พฤษภาคม 2567

รดน้ำขอพรผู้ใหญ่✨…เติมรักให้ครอบครัวสักกะนิด 💞


🔶 ความจริงแล้ว นอกจากการเล่นน้ำ💦ในประเพณีสงกรานต์ ยังถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ไทยเมื่อหลายร้อยปีก่อน และยังเป็นวันที่ครอบครัวได้มีโอกาสมาอยู่ร่วมกัน ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน จัดบ้านใหม่ ช่วยกันทำขนมไว้ทำบุญอีกด้วย

🔸 และที่ขาดไม่ได้คือ การแสดงความเคารพรักต่อผู้ใหญ่ หรือ เรียกอีกอย่างว่า 📍“การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่” 💧 นั่นเอง แต่เราอาจจะคุณชินติดปากกับอีกชื่อ คือ 📍“การรดน้ำดำหัว” ก็ได้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รับพรปีใหม่ไทย และเป็นการสืบสานประเพณีไปให้คนรุ่นหลังต่อไป

👉นอกจากการขอพรจากผู้ใหญ่แล้ว ยังช่วยทำให้หัวใจเราเป็นสุข ดังนี้
🔸 1. ช่วยกระชับความสัมพันธ์ ในสังคมปัจจุบันมีครอบครัวที่แยกกันอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะมีสักช่วงเวลาหนึ่ง ที่สามารถอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ได้นั่งถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี สำหรับการเติมรักเติมความห่วงใยให้ครอบครัว
🔸 2. ช่วยลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ คลายเหงา คลายเศร้า คลายเครียด เนื่องจากผู้สูงอายุหลาย ๆ คน อาศัยอยู่คนเดียวโดยลำพัง นาน ๆ ทีจะมีลูกหลานเเวะเข้ามาหามาเยี่ยม การได้พบปะ เห็นลูกหลานแสดงออก มอบความรักให้ ก็จะทำให้หัวใจพองโตไม่น้อย
🔸 3. ช่วยฝึกสมาธิ ฝึกจิตให้กับเด็กเล็ก ๆ ในการตั้งใจทำกิจกรรมตรงหน้าอย่างมีสมาธิไม่วอกแวก พร้อมกันนี้ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านอารมณ์ให้รู้จักความรัก ความอบอุ่น จากครอบครัว รู้ถึงประเพณีอันดีงาม และเป็นการเตรียมตัวในการเข้าสังคมที่ใหญ่ในอนาคต

🔖 การเติมรักสักกะนิดให้ครอบครัว สามารถทำได้ทุกวัน วันละนิด วันละน้อย ได้เช่นกัน เพียงแต่การได้พับปะได้ทำกิจกรรมร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครับ 👨‍👩‍👧‍👦ทำให้ทุกคนใจฟู เติมรักเติมความอบอุ่นด้วย “การกอด” ได้เต็มที่ และอย่าลืมชวนคนในครอบครัวรักษาสุขภาพ ด้วยการกินอาหารที่ถูกหลักอนามัย เสริมด้วยการชวนกันขยับร่างกายสักกะนิด ลิตเติ้ลบิท ลิตเติ้ลมอร์ ลดอาการเนือยนิ่ง 💖 ด้วยรักและห่วงใย อยากให้คนไทยสุขภาพดี จาก กรมอนามัย และขอให้ทุกครอบครัวมีความสุขในวันสงกรานต์ รวมถึงวันผู้สูงอายุและวันครอบครัวไทยในวันพรุ่งนี้ด้วยนะคะ

📌อย่าลืมกดติดตาม FACEBOOK กรมอนามัย เพื่อติดตาม📍ซีรีย์แล้วมารอชมกันสาระสุขภาพอะไรจากเรานะคะ 💖

 

#สาระสุขภาพ #แม่และเด็ก #วัยเรียนวัยรุ่น #วัยทำงาน #ผู้สูงอายุ

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH