กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำ ทำความสะอาดเสื้อกันหนาวเก่าเก็บไว้นานในตู้เสื้อผ้า หรือ เสื้อกันหนาวที่ได้รับบริจาค ควรซักให้สะอาดก่อนสวมใส่ ป้องกันโรคกลากเกลื้อน โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนัง
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนจะนำเสื้อกันหนาวเก่าที่เก็บไว้นานในตู้เสื้อผ้านำกลับมาใช้ หรือนิยมหาซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง ที่มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายตามตลาดนัดทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เนื่องจากราคาถูก รูปแบบทันสมัย บางส่วนเป็นสินค้าใช้แล้วที่มียี่ห้อซึ่งนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเสื้อกันหนาวจากการรับบริจาค ที่อาจมีกลิ่นอับชื้น มีฝุ่นหรือไรฝุ่นที่มีขนาดเล็ก และพาหะนำโรคติดมากับเสื้อผ้าที่เก็บรวมกันไว้เป็นระยะเวลานาน หากไม่มีการ ทำความสะอาดก่อนสวมใส่ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคกลากเกลื้อน โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนัง จากเชื้อรา และพาหะนำโรค ที่ชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก ได้แก่ เห็บ หมัด และโลน เมื่อสัมผัสผิวหนังจะทำให้เกิดอาการคันเป็นตุ่มแดงนูน และเกาจนเกิดเป็นแผลติดเชื้อได้
“ทั้งนี้ ก่อนนำเสื้อกันหนาวเก่าหรือเสื้อผ้ามือสองมาสวมใส่ ควรทำความสะอาดด้วย 2 วิธีดังนี้ วิธีที่ 1 ซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าตามปกติ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดนาน 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง วิธีที่ 2 แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ได้แก่ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ โดยเติม 1 ฝา ต่อน้ำ 10 ลิตร แช่ผ้าไว้นาน 5-15 นาที หรือใช้น้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1-2 ลิตร แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วซักตามปกติ จากนั้นนำไปตากแดดจัดหรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเท จนแห้ง แล้วนำมารีดทั้ง ข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ การเลือกวิธีทำความสะอาดเสื้อกันหนาวที่ดีที่สุด จะต้องคำนึงถึงประเภทของเสื้อผ้าด้วย เนื่องจากเสื้อผ้าบางประเภทไม่เหมาะกับการต้มเพราะอาจทำให้เสื้อผ้าชนิดนั้นชำรุดได้ หากซัก ทำความสะอาดเสื้อผ้าดังกล่าวแล้ว ยังมีกลิ่นอับชื้นหรือมีเชื้อราขึ้นจำนวนมากควรเปลี่ยนหรือกำจัดทิ้ง และถ้ามีอาการคันหลังสวมใส่ ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษา ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือปล่อยไว้จนลุกลาม” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 2 พฤศจิกายน 2561