กรมอนามัย เผย เชียงรายค่าฝุ่นสูง ย้ำ พ่อแม่คุมเข้มเด็ก งดกิจกรรมนอกบ้าน แนะจัดห้องปลอดฝุ่นที่บ้าน

  • 17 มีนาคม 2563

           #ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย จังหวัดเชียงราย ประสบปัญหาฝุ่นควันเกินมาตรฐาน  แนะกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็ก ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ขอให้พ่อแม่ คุมเข้ม งดกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมแนะแนวทางจัดห้องปลอดฝุ่น ที่บ้าน

  

         แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยังพบค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งในขณะนี้เป็นช่วงเด็กปิดเทอม จึงขอความร่วมมือ พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องคุมเข้มโดยให้เด็กเลี่ยงทำกิจกรรมนอกบ้าน นอกจากนี้    กลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรงดออกนอกบ้าน และงดออกกำลังกายทั้งในและนอกบ้าน ควรจัดห้องในบ้านให้เป็นห้องปลอดฝุ่น โดยลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นภายในและบริเวณบ้าน เช่น งดจุดธูป ปิ้งย่างหรือใช้ฟืนประกอบอาหาร เผาขยะ เผาเศษใบไม้/หญ้า หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นแหล่งกำเนิดควัน เป็นต้น ทั้งนี้ หากพบเด็ก หรือบุคคลในครอบครัวมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบพาไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาประจำตัวและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม อย่างน้อย 5 วันและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

           “สำหรับแนวทางการจัดทำห้องปลอดฝุ่นในบ้าน 1) ให้เลือกห้องที่ห่างจากถนน ลานจอดรถ พื้นที่ก่อสร้าง หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นแหล่งกำเนิดควัน และเป็นห้องที่มีช่องว่างของประตู หรือ หน้าต่างน้อยที่สุด 2) ทำความสะอาดห้อง โดยใช้ผ้าชุบน้ำแทนการใช้ไม้กวาด 3) ปิดช่องหรือรูที่อากาศภายนอกจะเข้ามา และ 4) เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในห้อง และไม่ควรทำกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นหรือควันเพิ่มขึ้นในห้อง ส่วนห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรตรวจสอบและทำความสะอาดแผ่นกรองทุกเดือน ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือน ต่อครั้ง ทั้งนี้ ช่วงที่ฝุ่นน้อยลงแล้ว ควรเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้มีการระบายอากาศภายในห้อง เพื่อลดการสะสมคาร์บอนไดออกไซต์ และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดจากช่องทางสื่อสารของหน่วยงานหรือสื่อต่าง ๆ เช่น เสียงตามสาย โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ เพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” ของกระทรวงสาธารณสุข” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 17 มีนาคม 2563

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH