กรมอนามัย กระตุ้นผู้สูงอายุดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อให้ได้น้ำเพียงพอ ลดเสี่ยงภาวะขาดน้ำ

  • 29 มีนาคม 2564

          กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือน ในช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิสูงขึ้น ผู้สูงอายุที่ดื่มน้ำน้อย อาจเกิดภาวะ ขาดน้ำ แนะผู้ดูแลกระตุ้นให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องรอกระหาย

           นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุมักพบได้ง่าย เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ทำให้น้ำในร่างกายผู้สูงอายุลดลงด้วย การตอบสนองต่อความกระหายน้ำก็ลดลง ทำให้ไม่รู้สึกอยากดื่มน้ำ ร่างกายจึงไม่ได้น้ำชดเชย ประกอบกับความเสื่อมของร่างกาย เช่น กลั้นปัสสาวะไม่ได้ หกล้มง่าย ข้อเข่าเสื่อม ซึมเศร้า สมองเสื่อม ทำให้ไม่อยากดื่มน้ำ นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังพบปัญหาโรคเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งต้องได้รับยาขับปัสสาวะ ทำให้น้ำในร่างกายน้อยลง รวมทั้งปัญหาสายตาทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน จึงเป็นอุปสรรคต่อการจัดหาน้ำดื่ม และที่สำคัญคือผู้สูงอายุที่มีอาการมือสั่น หยิบจับหรือกำไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถดื่มน้ำได้ด้วยตนเอง เป็นผลให้ได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลเสียหรืออันตรายต่อสุขภาพ อาจนำมาสู่ภาวะขาดน้ำได้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นจนบางครั้งใกล้เคียงหรือมากกว่าอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเป็นอย่างมาก ผู้ดูแลจึงควรจัดหาน้ำสะอาดไว้ให้ดื่มอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องรอกระหายน้ำ หรือจนปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม ควรจัดหาแก้วที่มีหูจับเพื่อสะดวกในการใช้ หรือให้ดูดจากหลอด โดยวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะข้างเตียง ไม่ควรให้ผู้สูงอายุดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ

             “ทั้งนี้ การป้องกันความเสี่ยงของผู้สูงอายุจากความร้อนทำได้โดยให้ผู้สูงอายุอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศแนะนำใช้พัดลม เปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่าเข้าตัวโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศที่ร้อน หากอากาศร้อนจัดควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน แต่หากจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวที่มีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม มีน้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดดและพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา ที่สำคัญ ผู้ดูแลควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน หากพบอาการ เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือพาไปพบแพทย์หรือติดต่อสายด่วน 1669 ทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 29 มีนาคม 2564

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH

ดาวน์โหลด eBook สุขภาพ

แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพพร้อมให้คุณดาวน์โหลดไปศึกษาฟรี!