กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนประชาชนทำความสะอาดบ้าน และสถานที่ทำงาน ให้ปลอดจากฝุ่น เพื่อเป็นการลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน มีแนวโน้มพบผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น ซึ่งหากผู้ป่วยบางรายได้รับสัมผัสฝุ่น อาจมีอาการระคายคอ ไอมีเสมหะบ่อยขึ้น และมีน้ำมูกมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นการป้องกันตนเองจากโควิด-19 ควรใส่ใจทำความสะอาดบ้าน และสถานที่ทำงานตามหลักสุขาภิบาล เพื่อลดฝุ่นและแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจด้วย โดยสามารถช่วยกันลดฝุ่นได้ง่าย ๆ เริ่มจากการทำความสะอาดภายในบ้าน และสถานที่ทำงานของตนเอง โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ 1) คัดแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้วออกไป เพราะจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น อุปกรณ์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสาร วารสาร เป็นต้น โดยเฉพาะห้องที่อยู่เป็นประจำ ควรมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้น้อยชิ้นที่สุด เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง 2) เช็ดถูบริเวณที่มีฝุ่น และพื้นห้องด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำผสมสบู่หรือผงซักฟอก และฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งวิธีเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อสามารถทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรท์กับน้ำให้ได้ความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือ วิธีที่ 2 ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำให้ได้ความเข้มข้น 0.5 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อที่เตรียมไว้เช็ดตามจุดสัมผัสร่วม ซอกมุม รวมถึงพื้นห้อง โดยถูสองรอบ จากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง และไม่ถูซ้ำกลับทางเดิม รวมทั้งล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศหรือหน้ากากเครื่องปรับอากาศและมุ้งลวด ให้สะอาดอยู่เสม สำหรับเครื่องนอน ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่านภายในห้องเป็นประจำด้วย
“ข้อถัดมาคือ 3) ควรสร้างสุขนิสัยในการทำความสะอาดบ้าน และสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการปลูกต้นไม้ที่มีลักษณะใบเรียวเล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบเหนียวเพื่อช่วยดักฝุ่น เช่น ทองอุไร ตะขบ จามจุรี โมก สนฉัตร เป็นต้น หรือการทำละอองน้ำฝอย เพื่อช่วยลดฝุ่นที่ลอยจากพื้น และ 4) ลดหรือเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่ม เช่น การจุดธูป-เทียน การเผาขยะ การจุดเตาถ่าน และการสูบบุหรี่ รวมทั้งควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อให้เกิดควันดำ เป็นต้น นอกจากนี้ ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
กรมอนามัย / 26 สิงหาคม 2565