กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Multiple Indicator Cluster Survey 6 : MICS6) ในประเด็นพัฒนาการเด็กปฐมวัย จัดทำการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และกรมอนามัย พบเด็กปฐมวัยไทย (อายุต่ำกว่า 5 ปี) มีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 92.3 โดยพบว่า มีพัฒนาการ ด้านสติปัญญาและภาษาต่ำที่สุดจากทั้ง 4 ด้าน อยู่ที่ร้อยละ 61 ในเด็กผู้ชาย และร้อยละ 64 ในเด็กผู้หญิง แนะพ่อแม่ ควรใช้เวลาในการเล่นและการอ่านหนังสือกับลูกให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า พัฒนาการของเด็กปฐมวัยเป็นพื้นฐานสำคัญ ต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เนื่องจากเด็กทุกคนเป็นผู้ชี้อนาคตของประเทศไทย เด็กที่มีพัฒนาการสมวัย จะมีเชาวน์ปัญญาดี และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพ การติดตามสถานการณ์พัฒนาการของเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการกำหนดนโยบาย และจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนเด็กปฐมวัย โดยประเทศไทยได้ทำการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย (MICS) ซึ่งเป็นการสำรวจมาตรฐานระดับโลกอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี พ.ศ. 2562 เป็นการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Multiple Indicator Cluster Survey 6 : MICS6) ในประเด็นพัฒนาการเด็กปฐมวัย จัดทำการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลพัฒนาการเด็ก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และกรมอนามัย ใน 4 ด้าน ได้แก่ พัฒนาด้านสติปัญญาและภาษา พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและกล้ามเนื้อ พัฒนาการด้านสังคม และพัฒนาการด้านการเรียนรู้ โดยเก็บข้อมูลใน 17 จังหวัด จาก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ มีกลุ่มตัวอย่าง 5,787 คน
ทางด้าน ดร.นายแพทย์ระพีพงศ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) เผยผลการสำรวจ พบว่า เด็กปฐมวัยในประเทศไทยมีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 92.3 ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 7 จาก 80 ประเทศ ที่มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง พบว่า มีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำที่สุดจากทั้ง 4 ด้าน ที่ร้อยละ 61 ในเด็กผู้ชาย และร้อยละ 64 ในเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวยากจนจะมีพัฒนาการ ด้านสติปัญญาและภาษาต่ำไปด้วย ผลการวิเคราะห์ยังพบว่า การที่พ่อแม่เล่นกับลูก เช่น การหัดเรียกชื่อ นับเลขหรือวาดรูป การเล่านิทาน การอ่านหนังสือหรือดูสมุดภาพ การร้องเพลง การทำกิจกรรมร่วมกัน และการพาเด็กไปเล่นนอกบ้าน ส่งผลต่อพัฒนาการสมวัยที่มากขึ้น ร้อยละ 28 เด็กที่มีพ่อแม่ที่มีการศึกษาสูงกว่า จะมีพัฒนาการสมวัยที่มากกว่าครอบครัวที่พ่อแม่มีการศึกษาน้อยกว่าถึงร้อยละ 34 เมื่อแบ่งเศรษฐานะครอบครัวเป็นดัชนีความมั่งคั่ง 5 ระดับ พบว่าเด็กที่อาศัย ในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุด จะมีพัฒนาการสมวัยที่มากกว่าถึง 2.92 เท่า เมื่อเทียบกับครอบครัวที่ยากจนที่สุด โดยติดตามผลการวิจัยได้ที่ https://www.mdpi.com/1660-4601/19/13/7599
ทางด้าน นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า จากผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า พัฒนาการของเด็กปฐมวัยไทยมีความเหลื่อมล้ำสูง โดยเฉพาะเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีเศรษฐานะต่ำ จะมีพัฒนาการสมวัยต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม พ่อแม่สามารถเสริมพัฒนาการให้ดีขึ้นได้ผ่านการเล่นกับลูกให้มากขึ้น โดยเฉพาะ การอ่านหนังสือ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดวงจรการเรียนรู้ เรียนรู้การออกเสียง เพิ่มคลังคำศัพท์ และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว โดยกรมอนามัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ส่งเสริมการเล่นและการอ่านผ่านโครงการเด็กไทย เล่นเปลี่ยนโลก ด้วยการเติมเต็มการเรียนรู้ ผ่านการเล่นตามแนวคิด 3F ได้แก่ Family Free และ Fun และพัฒนา พื้นที่ต้นแบบเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก ครอบคลุมทุกตำบล เพื่อให้เด็กทุกเพศ ทุกฐานะ ได้มีโอกาสเข้าถึง และพัฒนาตนเองผ่านการเล่นต่อไป
***
กรมอนามัย / 25 มิถุนายน 2565