กรมอนามัย แนะร้านอาหารพื้นที่สีแดงเข้ม ยกระดับความปลอดภัยหลังคลายล็อก นั่งกินห้องแอร์ได้ 50 % เปิดนานถึง 5 ทุ่ม

  • 23 มิถุนายน 2564

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ศบค. ผ่อนคลายพื้นที่สีแดงเข้ม นั่งกินในร้านอาหารได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติในบริเวณห้องปรับอากาศ และบริเวณไม่ติดเครื่องปรับอากาศนั่งได้ตามปกติ เปิดนานถึง 5 ทุ่ม แนะร้านอาหารยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการจัดหาวัคซีนสำหรับผู้ประกอบกิจการ ผู้สัมผัสอาหาร และผู้ปฏิบัติงานในร้านมีมาตรการลดการสัมผัสต่าง ๆ ลดการติดและแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

 

          นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากมาตรการผ่อนคลายของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ซึ่งปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยให้ร้านอาหารสามารถนั่งกินในร้านได้ และเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.แต่ยังคงจำกัดจำนวนคนนั่ง 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติในบริเวณห้องปรับอากาศ คือหากภายในร้านมีที่นั่งสามารถรองรับลูกค้าได้ 100 คน ก็จะจำกัดจำนวนการให้บริการได้เพียง 50 คน โดยทุกร้านยังคงต้องเฝ้าระวังเรื่องความเสี่ยงให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้มงวดต่อมาตรการป้องกันโควิด-19 ดังนี้ 1) คัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน 2) กำหนดจุดคัดกรองลงทะเบียน และกำหนดทางเข้าออกอย่างชัดเจน 3) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร เพื่อลดความแออัด โดยจัดที่นั่งกินอาหารแบบไม่เผชิญหน้ากัน หากมีพื้นที่จำกัดให้ทำฉากกั้น 4) มีการระบายอากาศที่เพียงพอ และจัดสภาพแวดล้อมให้สะอาด ถ้าเป็นห้องปรับอากาศ ต้องเปิดระบายอากาศทุก 1 ชั่วโมง

        “5) พนักงานและลูกค้าสวมหน้ากากให้ถูกต้องตลอดเวลา 6) ทำความสะอาดโต๊ะทันทีหลังใช้บริการ รวมทั้งห้องน้ำ จุดสัมผัสร่วม และมีการจัดการขยะมูลฝอยทุกวัน 7) จัดอุปกรณ์กินอาหารเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์/ข้าวต้ม/สลัดบาร์/หมูกระทะ ให้งดการไปตักอาหารแบบที่รวมกลางหรือบุฟเฟต์ เพราะจะทำให้คนไปรวมกันหนาแน่น เสี่ยงแพร่เชื้อ และกรณีที่ต้องรับประทานหม้อ/ภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกัน และต้องไม่ใช้ช้อนกลางร่วมกัน 8) ร้านอาหารต้องประเมิน Thai Stop COVID Plus และติดประกาศให้ชัดเจน ส่วนพนักงานให้ประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” ทุกครั้งก่อนเข้าทำงาน อีกทั้งควรยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยระบบการจองคิวออนไลน์ บริการสั่งซื้อกลับบ้าน รวมถึงแสดงรายละเอียดข้อมูลผู้ฉีดวัคซีน โดยการจัดหาวัคซีนสำหรับผู้ประกอบกิจการผู้สัมผัสอาหารและผู้ปฏิบัติงานในร้าน กรณีที่พบผู้ป่วยให้ปิดทันที 1-3 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคตามมาตรการควบคุมโรค และถ้าจะเปิดร้านต้องประเมินผ่านมาตรการที่กำหนดก่อน” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว

         อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับผู้บริโภคต้องเฝ้าระวังและป้องกันตนเองอย่างเข้มข้น  เมื่อใช้บริการในร้านอาหาร โดยสวมหน้ากากให้ถูกต้องตลอดเวลา ยกเว้นเวลากินอาหาร เนื่องจากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่องพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 18 มิถุนายน 2564 พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเป็นประจำเมื่อออกจากบ้านร้อยละ 97.8 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งผ่านมา จึงต้องเน้นย้ำให้ประชาชนที่ออกจากบ้านเพื่อมากินอาหาร ในร้าน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา เว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาสที่จะนำมือมาสัมผัสใบหน้า  โดยไม่รู้ตัว ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอก่อนเข้าทำงาน และสแกนแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เมื่อเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 23 มิถุนายน 2564

กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

เลขที่ 88/22 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

Email prnews@anamai.mail.go.th

โทรศัพท์ 0-2590-4053

ติดตามกรมอนามัย

เรามีสาระสุขภาพดีๆ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์

Subscription

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH