กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะทำบุญออกพรรษาปีนี้ ขอให้ประชาชนร่วมกิจกรรมหรือร่วมงานบุญ อย่างปลอดภัย คุมเข้มระยะห่าง ลดความแออัด สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงอาจเลี่ยงด้วยการอยู่บ้านทำบุญ ฟังเทศน์ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาผ่านช่องทางออนไลน์แทน พร้อมขอความร่วมมือวัดปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ยกระดับความปลอดภัย ทั้ง 3 ด้าน ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด–19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันทำบุญออกพรรษาในแต่ละปี ประชาชนยังคงนิยมไปวัดทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงต้องระมัดระวังตนเองเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบางและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย จึงอาจจะต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นให้ลูกหลานใช้สื่อออนไลน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุแทนการเข้าวัด เช่น การฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรม และพิธีกรรมทางศาสนาแบบออนไลน์ หรือการบริจาคปัจจัยผ่านคิวอาร์โค้ด เพื่อลดการสัมผัสกับธนบัตร เหรียญ หรือสิ่งของบริจาคต่าง ๆ และลดจำนวนผู้เข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา สำหรับวัดและกลุ่มประชาชนทั่วไป ยังคงขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 COVID Free Environment สิ่งแวดล้อมปลอดภัย โดยควบคุมการเข้า–ออก มีจุดคัดกรอง และจุดบริการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล พร้อมจัดให้มีหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ใช้ระยะเวลาในการจัดงานให้สั้นที่สุด ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เช่น เก้าอี้ ราวจับ ประตู ลิฟต์ หรือพื้นผิวสัมผัสอื่น ๆ ทุก 30 นาที และทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนและหลังการจัดงาน จัดให้มีการระบายอากาศที่ดี กรณีใช้ระบบปรับอากาศให้เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ ก่อนและหลังให้บริการอย่างน้อย 30 นาที และทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศทุก 3 เดือน ทำความสะอาด ห้องสุขา โดยเน้นจุดสัมผัสร่วม ทุก 1-2 ชั่วโมง และหลังจัดงาน จัดให้มีภาชนะรองรับมูลฝอยที่มีฝาปิดมิดชิด เพียงพอมีการคัดแยกประเภทมูลฝอย และรวบรวมไปกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทุกวัน
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ด้านที่ 2 COVID Free Personnel ผู้จัดงานหรือเจ้าภาพ ผู้ประกอบพิธี หรือผู้นำพิธี และพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาการจัดงาน ควรได้รับการฉีดวัคซีนครบ อย่างน้อย 14 วัน หรือกรณีที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการจัดงาน หากเคยติดเชื้อโควิด-19 และรักษาหายแล้วในช่วง 1-3 เดือน ต้องมีใบรับรองแพทย์ โดยไม่ต้องตรวจ ATK หรือวิธี RT-PCR ซ้ำ ก่อนเข้าพื้นที่จัดงานให้ลงทะเบียน ตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย หากไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ให้ติดสัญลักษณ์แสดงการคัดกรอง “ผ่าน” ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล และลงทะเบียนโดยใช้แอปพลิเคชันตามที่ราชการกำหนด สแกน QR code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน และแบบลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
“ทั้งนี้ ผู้ประกอบพิธี หรือผู้นำพิธี ให้เว้นระยะห่างระหว่างผู้ประกอบพิธีกรรมและผู้ร่วมพิธีท่านอื่น โดยมีระยะห่าง อย่างน้อย 1 เมตร หากมีอาการเจ็บป่วย หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงแยกกักตัว ให้งดร่วมประกอบพิธี ส่วนพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ ควรจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันโรคส่วนบุคคล เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือ เป็นต้น และสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ทุกสัปดาห์ รวมทั้งประเมินตนเองโดยใช้แอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน ถ้าพบว่ามีความเสี่ยงสูงมาก และมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้หยุดปฏิบัติงานทันที หากเดินทางไปในสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 และสัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ หรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อ ให้เข้ารับการตรวจ RT-PCR และกักตัว 14 วัน โดยแจ้งให้หัวหน้างานทราบ ห้ามปกปิดข้อมูลโดยเด็ดขาด สำหรับที่พักของพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ควรกำหนดพื้นที่ 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร หากสถานที่ไม่เพียงพอให้เหลื่อมเวลา เพื่อลดความหนาแน่น และควรจัดอาหารและเครื่องดื่มส่วนบุคคล” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า ด้านที่ 3 COVID Free Customer ให้ผู้เข้าร่วมงานไม่เกินร้อยละ 50 ของพื้นที่จัดงานสำหรับสถานที่ปิด และร้อยละ 75 สำหรับสถานที่เปิด ผู้เข้าร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลบ่อย ๆ ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกสถานที่โดยการใช้แอปพลิเคชันตามที่ราชการกำหนด สแกน QR code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน และแบบลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน กำหนดจุดวัดอุณหภูมิคัดกรองผู้เข้าร่วมงาน หากอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัญลักษณ์ที่อนุญาตให้ “ผ่าน” เข้าไปในงานได้ ให้ประเมินตนเอง โดยใช้แอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” ก่อนเข้าบริเวณการจัดงาน สำหรับงานบุญออกพรรษา หากมีการโปรยทาน ขอให้มีคนควบคุมการเว้นระยะห่างระหว่างประชาชนที่มารอรับการโปรยทาน และที่สำคัญ ผู้เข้าร่วมงานควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เมื่อกลับถึงบ้านต้องอาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
กรมอนามัย / 20 ตุลาคม 2564