กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนสวมหน้ากากให้ถูกวิธี ถูกประเภท ช่วยลดเสี่ยง การติดและแพร่เชื้อโควิด-19 พร้อมย้ำ ให้ปฏิบัติตามมาตรการอื่นของกระทรวงสาธารณสุขควบคู่กันไปด้วย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อโชเชียลเผยแพร่คลิป ชายสูงอายุสวมหน้ากากอนามัยหลายชั้น ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปเกิดคำถามว่า อากาศสามารถผ่านเข้าสู่ระบบ ทางเดินหายใจได้หรือไม่ หรือบางคนมีความเป็นห่วง กังวล ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมหน้ากากนั้น ในกรณีการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องสวมให้ถูกต้องและถูกวิธี โดยให้ปิดจมูก ปาก คาง หากสวมหน้ากากอนามัยไม่แนะนำให้สวมซ้อนกัน 2 ชั้น เนื่องจากจะทำให้ไม่กระชับกับใบหน้า และเกิดช่องว่าง ทำให้ต้องใช้มือขยับหน้ากาก และเสี่ยงสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคลดลง สำหรับวิธีการตรวจสอบความกระชับกับใบหน้าด้วยการตรวจช่องว่าง ให้เอามือแตะขอบด้านนอกของหน้ากาก พร้อมดูให้แน่ใจว่าไม่มีอากาศไหลออกจากบริเวณใกล้ดวงตา หรือจากด้านข้างของหน้ากาก และถ้าสวมหน้ากากพอดีแล้ว จะรู้สึกว่ามีลมร้อนผ่านเข้ามาทางด้านหน้าของหน้ากาก และอาจเห็นหน้ากากเคลื่อนเข้าและออกทุกครั้งที่หายใจ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า หากต้องการเพิ่มความมั่นใจของชั้นกรองหน้ากากให้มีประสิทธิภาพสูง เมื่อต้องอยู่ในสถานที่แออัด หรือพื้นที่ที่ระบายอากาศไม่ดีเป็นระยะเวลานาน เช่น ในรถตู้โดยสาร หรือเมื่อต้องสัมผัสใกล้ชิด กับผู้มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้สวมหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยได้ แต่ขอเน้นย้ำต้องสวมให้ถูกวิธีและถูกประเภท ของชนิดหน้ากาก คือ สวมหน้ากากอนามัยก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากผ้า ซึ่งจะเพิ่มความกระชับและความสามารถในการกรองมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งตรวจสอบว่าหายใจได้สะดวกหรือไม่ นอกจากนี้ การสวมหน้ากากแบบผิดประเภท เช่น สวมหน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้น สวมหน้ากาก N95 ก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากอื่น หรือสวมหน้ากากผ้าก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากอนามัย นอกจากจะไม่ช่วยเรื่องประสิทธิภาพการป้องกันแล้ว ยังส่งผลให้ผู้สวมอึดอัด หายใจไม่ออก และ อาจเป็นลมได้ สำหรับกลุ่มที่ไม่ควรสวมหน้ากาก คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้ที่มีโรคหรือข้อห้ามทางการแพทย์ เช่น ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
“ทั้งนี้ จากผลการสำรวจอนามัยโพลเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2564 พบว่า สถานที่ที่พบเห็นผู้อื่นสวมหน้ากากไม่ถูกต้องหรือไม่สวมมากที่สุด คือ สวนสาธารณะ พบสวมไม่ถูกต้องหรือไม่สวม ร้อยละ 35 ฟิตเนส โรงยิม ร้อยละ 29 และ ตลาดสดหรือตลาดนัดร้อยละ 27.5 ซึ่งจากการสวมหน้ากากที่ไม่ถูกต้อง หวั่นจะเป็นจุดเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อในชุมชน หรือเป็นอันตราย ต่อผู้สวมใส่เอง จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกพื้นที่สวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา และสวมให้ถูกวิธี” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การป้องกันโรคโควิด-19 นอกจากการสวมหน้ากากถูกวิธีแล้ว ยังคงต้องรักษามาตรการต่าง ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาสที่จะนำมือมาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว เว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ ประเมินตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนเข้าสถานที่ทำงาน และหากมีอาการหรือไปในพื้นที่เสี่ยงควรตรวจด้วย ATK เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจจะมีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
กรมอนามัย / 17 พฤศจิกายน 2564