กรมอนามัย ย้ำ โรงงานใช้ 4 มาตรการหลัก คุมเข้มโควิด-19

  • 17 มิถุนายน 2564

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานประกอบกิจการประเภทโรงงานใช้ 4 มาตรการหลักคุมเข้ม   โควิด-19 คือ มาตรการด้านการป้องกันโรค  มาตรการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม  มาตรการเสริมโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ และมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ พร้อมย้ำทุกโรงงานประเมินผ่าน Thai Stop COVID Plus (GOOD FACTORY PRACTICE) ส่วนพนักงานประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าทำงาน

  

               

                     นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในโรงงานยังคงพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนกระจายในหลายพื้นที่ ซึ่งข้อมูลการแพร่ระบาดในโรงงานขนาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน พบว่า 5 จังหวัดอันดับที่มีรายงานติดเชื้อภายในโรงงานมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรสาคร 91 โรงงาน จังหวัดสมุทรปราการ 41 โรงงาน จังหวัดปทุมธานี 32 โรงงาน จังหวัดชลบุรี 30 โรงงาน และจังหวัดนครศรีอยุธยา 29 โรงงาน ตามลำดับ จึงขอความร่วมมือพนักงานทุกคนคุมเข้มการระบาดของโรคโควิด-19     ในสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม  กระทรวงแรงงาน  กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนด 4 มาตรการหลัก คือ 1) มาตรการด้านการป้องกันโรค มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ลดความแออัด การเว้นระยะห่าง ติดตามข้อมูลของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงการให้ผู้ที่อยู่ในโรงงานปฏิบัติตามมาตรการ  2) มาตรการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การจัดการขยะมูลฝอย จัดให้มีการระบายอากาศที่เหมาะสม หอพักสำหรับผู้ปฏิบัติงานต้องสะอาด ไม่แออัด และหลีกเลี่ยง      การรวมกลุ่ม หากมีรถรับ-ส่ง ต้องมีการทำความสะอาด สำหรับการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในโรงอาหาร โดยกำหนดเส้นทางการเดิน  จุดนั่ง เดิน ยืนหรือที่พักรอให้ชัดเจน แยกสำรับอาหาร และไม่ใช้แก้วน้ำ จาน ชาม ร่วมกัน

                    “3) มาตรการเสริมสำหรับโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ต้องมีกลไกการจัดการและแผนเมื่อเกิดเหตุ กรณีพบพนักงานติดเชื้อต้องมีการซักซ้อมแผน หากมีแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ต้องเข้มเรื่องการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อ โดยใช้ระบบประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์     “ไทยเซฟไทย” ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงรายบุคคล กรณีมีรถรับ-ส่ง ให้พนักงานสวมหน้ากากตลอดเวลาเว้นระยะห่างวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นรถ และเช็ดฆ่าเชื้อรถหลังใช้งาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่ส่วนกลาง และจุดสัมผัสร่วมให้เปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น ประตู ก๊อกน้ำ เป็นต้น  และ 4) มาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สั่งการและคำแนะนำ หลังจากนั้นให้พิจารณาปิดพื้นที่หรือสถานที่และทำความสะอาดพื้นผิวทันที ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้ส่งตรวจเชื้อและกักตนเองทันที  ส่วนผู้เสี่ยงต่ำให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ให้ใช้ Bubble and seal เพื่อป้องกัน     การแพร่ระบาดของโรค และให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินการต่อไปได้” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว

                        อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า กรมอนามัยขอความร่วมมือทุกโรงงานประเมินผ่าน Thai Stop COVID Plus (GOOD FACTORY PRACTICE)  ซึ่งเป็นข้อแนะนำทางด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาด ประกอบด้วยมาตรการ และแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงานและแนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ โดยให้ผู้ประกอบการต้องประเมินตนเองอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ สำหรับพนักงานทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด คือ D : Distancing เว้นระยะระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น  M : Mask wearing สวมหน้ากากตลอดเวลา H : Hand washing ล้างมือบ่อย ๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมือ อย่างทั่วถึง เพียงพอ T : Testing ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย T : Testing COVID-19 ตรวจเชื้อโควิด-19 และ A : Application Thaichana ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ/หมอชนะ

***

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ /17  มิถุนายน 2564

กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

เลขที่ 88/22 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

Email prnews@anamai.mail.go.th

โทรศัพท์ 0-2590-4053

ติดตามกรมอนามัย

เรามีสาระสุขภาพดีๆ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์

Subscription

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH