กรมอนามัย แนะ กลุ่มขับแท็กซี่ คุมเข้มตัวเอง ย้ำ 5 จุดเสี่ยงในรถ ต้องเน้นทำความสะอาด

  • 17 พฤษภาคม 2564

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ขับรถแท็กซี่ป้องกันและสร้างสุขอนามัยที่ดีให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสังเกตอาการ สวมหน้ากาก และหมั่นล้างมือ พร้อมแนะทำความสะอาดตัวรถแท็กซี่บ่อย ๆ  ใน 5 จุด ที่มีการสัมผัสร่วมบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19

 

        

               

                นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า  ในช่วงการเฝ้าระวังสถานการณ์  โควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ถือเป็นอีกกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากมีการให้บริการผู้โดยสารในทุก ๆ วัน หากไม่ป้องกันอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปยังผู้โดยสาร หรือเป็นผู้ที่เสี่ยงรับเชื้อได้ง่าย ซึ่งข้อมูลในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ขับรถแท็กซี่เสียชีวิตด้วย   โรคโควิด-19 จำนวน 11 ราย จึงจำเป็นต้องมีการป้องกันและสร้างสุขอนามัยที่ดีอย่างเข้มข้น หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ หรือมีอุณหภูมิร่างกายเท่ากับหรือมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้แจ้งงดเช่ารถ และไปพบแพทย์ทันที และขณะที่ให้บริการ ผู้ขับรถแท็กซี่และผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในรถแท็กซี่ หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ หรือทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลังการใช้บริการทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วย

            “สำหรับตัวรถแท็กซี่ที่ให้บริการ ผู้ขับต้องล้างทำความสะอาดรถทุกวันก่อนนำรถออกให้บริการ และหลังการให้บริการ โดยเน้นการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิว 5 จุดเสี่ยงที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ๆ ได้แก่ 1) ที่จับบริเวณประตู 2) ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร 3) เบาะนั่ง 4) ที่เท้าแขน และ 5) กระจกภายในรถ ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด และแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ทุกครั้งที่ผู้โดยสารลงจากรถเพื่อทำลายเชื้อโรค” อธิบดี  กรมอนามัย กล่าว

***

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 16 พฤษภาคม 2564

กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

เลขที่ 88/22 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

Email prnews@anamai.mail.go.th

โทรศัพท์ 0-2590-4053

ติดตามกรมอนามัย

เรามีสาระสุขภาพดีๆ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์

Subscription

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH