กรมอนามัย เตือน สภาพอากาศร้อนเสี่ยงทำบ่อขยะเกิดเพลิงไหม้ แนะแนวปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ให้พร้อมช่วยเหลือ

  • 13 เมษายน 2565

          #ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนสภาพอากาศร้อนเป็นความเสี่ยงที่ทำให้บ่อขยะเกิดไฟไหม้ได้ แนะแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการช่วยเหลือ พร้อมแนวทางให้ประชาชนปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง

            นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อน บ่อขยะเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องเฝ้าระวังเพราะอาจเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะ 200 ตัน ขยะส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติก ที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นและควันจากสารพิษ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทและเดินทางกลับต่างจังหวัดแล้ว ดังนั้น ขอความร่วมมือจังหวัดอื่น ๆ ได้มีการเฝ้าระวังในช่วงหน้าร้อนนี้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดเพลิงใหม่บ่อขยะ เพราะเมื่อเกิดเหตุอาจก่อให้เกิดสารพิษในอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารไดออกซินและฟิวแรน หากไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในระยะสั้น สารพิษเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงได้หากสัมผัสทางดวงตา จะเกิดระคายเคืองตา ตาแดง ส่งผลต่อการมองเห็น หากสัมผัสทางการหายใจ ส่งผลต่อระบบประสาททำให้มีอาการมึนงง ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ร่างกายอ่อนแรง หายใจหอบ หายใจถี่ แต่หากสัมผัสทางผิวหนัง ทำให้เกิดการคันผิวหนัง ระคายเคือง แสบผิว บวม แดง ผิวหนังไหม้ สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัวจะมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น โรคหอบหืด โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง ส่วนสตรีมีครรภ์ หากได้รับสารเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้ทารกในครรภ์ผิดปกติได้

           นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่หากเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะดังนี้ 1)สวมใส่ชุดป้องกันอันตรายจากไฟสารเคมีที่ปกคลุมดวงตาใบหน้าพร้อมสวมถุงมือป้องกันผิวหนัง 2)ประเมินการปนเปื้อนของสารพิษในอากาศเพื่อประเมินระดับความรุนแรงของการรับสัมผัสก่อนเลือกชุดป้องกันตนเองจากสารเคมีที่เหมาะสมโดยให้ใส่หน้ากากป้องกันไอระเหยสารเคมีร่วมด้วย 3)ประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของไฟไหม้และอพยพผู้ที่อาศัยหรือทำงานในบ่อขยะและประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากที่พักอาศัยเพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพและ 4) จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลไว้ในบริเวณที่สารเคมีรั่วไหลไม่ถึงและดูแลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

           “สำหรับประชาชนควรปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้ 1) ติดตามข่าวสารสถานการณ์การแจ้งเตือนภัยสุขภาพจากเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด 2)หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารและสวมหน้ากากป้องกันสารเคมีหรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่อลดความเสี่ยงจากสารพิษ 3) กรณีหน่วยงานภาครัฐแจ้งเตือนให้มีการอพยพจากบ้านเรือนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนจากเพลิงไหม้ที่ลุกลามมายังอาคารที่พักของตนเอง 4) สังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุเด็กเล็กหญิงตั้งครรภ์และผู้มีปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจหากมีอาการผิดปกติจากการสูดดมสารพิษให้แจ้งเจ้าหน้าที่และพบแพทย์โดยด่วนและ 5) หากพบอาการระบบทางเดินหายใจรวมถึงอาการไอบ่อยๆหายใจลำบากแน่นหรือเจ็บหน้าอกหัวใจเต้นไม่เป็นปกติคลื่นไส้เหนื่อยง่ายหรือเริ่มมีอาการปวดศีรษะให้ปรึกษาแพทย์หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุขทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 13 เมษายน 2565

 

กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

เลขที่ 88/22 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี

Email prnews@anamai.mail.go.th

โทรศัพท์ 0-2590-4053

ติดตามกรมอนามัย

เรามีสาระสุขภาพดีๆ ส่งตรงถึงอีเมลคุณทุกสัปดาห์

Subscription

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH

ดาวน์โหลด eBook สุขภาพ

แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพพร้อมให้คุณดาวน์โหลดไปศึกษาฟรี!