#ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม SEhRT ร่วมลงพื้นที่กับหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังความเสี่ยงการปนเปื้อนแคดเมียมในพื้นที่โดยรอบโกดังรีไซเคิล แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่โดยรอบ หากมีการสัมผัสโดยการ กิน สูดดมผงหรือฝุ่นสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดการระคายเคืองจมูกลำคอ หายใจลำบาก เจ็บปวดบริเวณหน้าอก มีอาการไอ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง อ่อนเพลีย บางรายเกิดภาวะท้องร่วงรุนแรง และในระยะยาวหากสัมผัสเป็นเวลานานและมีความเข้มข้นสูงมีโอกาสภาวะเจ็บป่วยรุนแรงได้
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา มีการตรวจพบกากแคดเมียมเพิ่มอีกจุดในบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด ในพื้นที่ซอยเรียงปรีชา
ถนนประชาราษฏร์ แขวงบางซี่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร กากแคดเมียมในถุงบิ๊กแบ็กจำนวน 98 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน เบื้องต้นหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการประกาศห้ามใช้พื้นที่โรงงานดังกล่าวแล้ว
และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานแห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น แต่มีการลักลอบนำกากแคดเมียมมาเก็บไว้ในพื้นที่ของโรงงาน ดังนั้น หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น จึงต้องมีการควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกากแคดเมียมดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง หากมีการจัดเก็บ
ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงหรือบริเวณโดยรอบโรงงานได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยได้ โดยหากมีการสัมผัสโดยการกิน สูดดมผงหรือฝุ่นสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดการระคายเคืองจมูกลำคอ หายใจลำบาก เจ็บปวดบริเวณหน้าอกมีอาการไอ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง อ่อนเพลีย บางรายเกิดภาวะท้องร่วงรุนแรง และในระยะยาวหากสัมผัสเป็นเวลานานและมีความเข้มข้นสูงมีโอกาสภาวะเจ็บป่วยรุนแรงได้
นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น แพทย์หญิงอัจฉรานิธิ อภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย จึงเร่งส่งทีม SEhRT ของกรมอนามัยและสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ร่วมปฏิบัติการกับสำนักงานเขตบางซื่อ กรมควบคุมโรค และกรมควบคุมมลพิษ และศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง เพื่อทำการประเมินความเสี่ยงทั้งด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน พบว่าน้ำทิ้งจากโรงงานดังกล่าวถูกปล่อยเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานครทำให้ไม่มีการปนเปื้อนของสารแคดเมียมในแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทีม SEhRT ของสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง กรมอนามัย
จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำใช้ของประชาชนโดยรอบโรงงาน และภายในโรงงานดังกล่าวผลยืนยันแล้วว่าไม่พบสารแคดเมียมในน้ำอุปโภค บริโภค จึงขอแจ้งให้ประชาชนมั่นใจในในการใช้น้ำได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนสารแคดเมียม ทั้งนี้ ทีม SEhRT ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการสื่อสารประชาชนให้มีความรู้เรื่องอันตรายจากการรับสัมผัสสารแคดเมียม และเข้าใจต่อสถานการณ์ พร้อมแจ้งให้ประชาชนดูแลตนเอง
และครอบครัวสามารถป้องกันตนเองจากความเสี่ยงสุขภาพ หากพบความผิดปกติทั้งสิ่งแวดล้อมโดยรอบ และผลทางสุขภาพให้รับแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ทันที
“ทั้งนี้ กรมอนามัย ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังการลักลอบเก็บ ขน สะสมกากแคดเมียมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้งควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขกับสถานประกอบกิจการเสี่ยงในพื้นที่ โดยให้มีการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สุขลักษณะและกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไม่ให้สถานประกอบการเกี่ยวกับสารเคมีทุกชนิด มีการปล่อย หรือทำให้เกิดสารพิษออกไปยังชุมชนที่มีประชาชนโดยรอบ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงผลกระทบสุขภาพต่อไป พร้อมเน้นน้ำทุกพื้นที่ เร่งสื่อสารความเสี่ยงทางสุขภาพให้กับประชาชน
เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดี” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
กรมอนามัย / 11 เมษายน 2567