Warning: Undefined variable $bg in D:\wwwroot\multimedia\wp-content\themes\anamai_2021_v1_0_1\single.php on line 28
>

กรมอนามัย เผย แม่ติดเชื้อโควิด-19 ให้นมลูกได้

  • 3 สิงหาคม 2565

              #ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยแม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอย่างยิ่ง เพราะในน้ำนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูก รวมถึงวัคซีนที่แม่ฉีดก็สามารถป้องกันลูกจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่ต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตัว ด้วยการสวมหน้ากากขณะให้นม หมั่นล้างมือให้สะอาดและถูกวิธี รวมทั้งงดหอมแก้มลูก

                 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 1 – 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นสัปดาห์นมแม่โลก แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แม่หลังคลอดที่เป็นผู้เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อ หรือได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ยังคงให้ลูกกินนมแม่ได้ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ในกรณีที่แม่ติดเชื้อแต่มีอาการไม่มาก สามารถให้นมจากเต้า ได้ปกติ แต่ต้องมีการป้องกัน และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยลูกควรอยู่ห่างจากแม่อย่างน้อย 2 เมตร หรือมีม่านกั้น สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่กับลูก ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์เข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ก่อนการสัมผัสตัวลูก และทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวต่าง ๆ ที่คุณแม่สัมผัส รวมทั้งควรล้างทำความสะอาดหน้าอก เมื่อมีการไอหรือจามรดหน้าอก และห้ามใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า จมูกหรือปาก รวมถึงการหอมแก้มลูกขณะให้นม

                 “ทั้งนี้ หากแม่ไม่สะดวกที่จะให้นมจากเต้า ยังคงสามารถบีบเก็บน้ำนมได้ ควรให้พ่อหรือผู้ช่วย เป็นผู้ป้อนนมให้ลูกแทน โดยผู้ช่วยจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี มีทักษะในการป้อนนม และป้องกันการแพร่กระจาย  ของเชื้ออย่างเคร่งครัด ในกรณีที่แม่ติดเชื้อมีอาการรุนแรง แนะนำงดให้นมบุตร และอาจบีบน้ำนมทิ้งไปก่อน เพื่อให้แม่คงสภาพที่สามารถให้นมลูกได้เมื่ออาการดีขึ้น ที่สำคัญ แม่หลังคลอดที่ให้นมลูกควรเข้ารับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดการเจ็บป่วยรุนแรง โดยภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นในแม่ ยังสามารถส่งผ่านน้ำนมไปยังลูกได้ด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 3  สิงหาคม  2565

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH