กรมอนามัย แนะจัดอาหารกล่อง ให้ปลอดภัยจากโควิด -19

  • 2 มีนาคม 2565

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะร้านอาหาร ผู้ประกอบการจัดทำอาหารกล่อง เข้มมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุข ลดเสี่ยงแพร่โควิด -19

                       นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อที่ยังมีแนวโน้มสูงอยู่ในขณะนี้ หลายคนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงการติดและแพร่เชื้อโควิด-19  ด้วยการสั่งอาหารกล่องมากินที่บ้านกันมากขึ้น ซึ่งร้านอาหารหรือผู้ประกอบการที่จัดทำอาหารกล่องควรผ่านการรับรองหรือการประเมินจากหน่วยงานราชการ เช่น Clean Food Good Taste หรือ COVID Free Setting และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ให้ถูกต้องตลอดเวลา ห้ามรวมกลุ่มพูดคุยหรือกินอาหารร่วมกันในขณะปฏิบัติงาน หากมีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ไข้ หรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อต้องหยุดทำงานทันที และตรวจหาเชื้อโควิดเบื้องต้นด้วย ATK สำหรับสุขอนามัย ของผู้ปรุงประกอบอาหาร ต้องสวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลาหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำก่อนปฏิบัติงานสัมผัสอาหาร และควรปรุงอาหารสุกใหม่ไม่เกิน 2-4 ชั่วโมงหลีกเลี่ยงเมนูอาหารที่บูดเสียง่าย เช่น ยำประเภทต่าง ๆ แกงกะทิ หากเป็นอาหารประเภททอด เช่น หมูทอด  ควรลดหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผัก ผลไม้ เข้าไปด้วย และเมื่อถึงขั้นตอนแยกบรรจุควรแยกกับข้าวออกจากข้าวเพื่อลดระยะเวลาในการบูดเสียของอาหาร และใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายได้

                     “ทั้งนี้ รถขนส่งอาหารต้องสะอาด อาหารมีการปกปิดตลอดเวลาในขณะขนส่ง รวมถึงใช้เวลาการขนส่งไม่ควรเกิน 30 นาที สำหรับผู้รับอาหารต้องจัดจุดรับอาหารให้ชัดเจน จัดสถานที่สำหรับรับอาหารให้สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร โดยจัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่อง หรือโต๊ะแบบพับได้ และให้ยืนห่าง  จากพนักงานขนส่งอาหารอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ หลังการรับอาหารจากพนักงานขนส่งอาหารทันที และควรเลือกวิธีการชำระค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดี เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินทอน ก่อนกินอาหารให้ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำนานอย่างน้อย 20 วินาที มีการเว้นระยะห่าง แยกสำรับการกินแบบไม่รวมกลุ่มทุกครั้ง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 2 มีนาคม 2565

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH