กรมอนามัย แนะ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย จับเด็กเล็กแปรงฟันแบบมีระยะห่าง เพิ่มแก้วน้ำ 2 ใบ ‘ใส่น้ำ – บ้วนฟอง’ ลดสัมผัส ป้องกันโควิด-19

  • 3 พฤษภาคม 2564

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยปรับรูปแบบการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของเด็กเล็กลดการสัมผัสป้องกันโควิด-19 จัดเตรียมอุปกรณ์การแปรงฟัน โดยให้แปรงฟันแบบมีระยะห่าง ใช้แก้วน้ำ 2 ใบ ใส่น้ำสะอาด และไว้บ้วนฟองและบ้วนน้ำสะอาด พร้อมส่งเสริมการแปรงฟันด้วยสูตร 2–2-2 ป้องกันฟันผุ

               

                นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการระบาดโควิด-19 ระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีเด็กปฐมวัยแรกเกิดถึง 6 ปี ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 592 ราย การใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากเด็กเล็กในช่วงเวลานี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องหลักที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากต้องมีการอุดฟัน จะมีการฟุ้งกระจายของละอองฝอย (aerosol) รวมถึงปัจจัยเสี่ยงของความแออัดในการเข้ารักษา และการเดินทางไปสถานพยาบาล ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการรับเชื้อหรือการแพร่กระจายของเชื้อโควิด–19 สำหรับในส่วนสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีเด็กเล็กอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากนั้น กรมอนามัยได้แนะนำเพื่อเตรียมการเปิดเรียนในภาคการศึกษาครั้งต่อไป โดยปรับรูปแบบการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของเด็กเล็ก ด้วยการจัดเตรียมอุปกรณ์การแปรงฟัน ได้แก่ แปรงสีฟัน ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แก้วน้ำ และผ้าเช็ดหน้าประจำตัว โดยให้เด็กแปรงฟันเว้นระยะห่าง     1-2 เมตร หากพื้นที่ไม่เพียงพอ ให้แบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม แล้วผลัดกันแปรงฟันทีละรอบ โดยมีแก้วน้ำ 2 ใบ ใบหนึ่งใส่น้ำสะอาด ส่วนอีกใบเป็นแก้วเปล่าไว้สำหรับบ้วนฟองและบ้วนน้ำสะอาด โดยมีครูหรือผู้ดูแลเด็กสวมหน้ากาก   อนามัยหรือหน้ากากผ้า บีบยาสีฟันให้เด็กแต่ละคนในปริมาณที่เหมาะสม และช่วยดูแลให้เด็กตอนแปรงฟัน

             “ทั้งนี้ หากไม่สามารถจัดเตรียมยาสีฟันประจำตัวเด็กแต่ละคนได้ อาจบีบยาสีฟันลงบนจานกระดาษสำหรับเด็กแต่ละคน และใช้แปรงสีฟันปาดยาสีฟันจากจานกระดาษเพื่อให้เด็กแปรงฟัน เมื่อแปรงฟันเรียบร้อยแล้วให้เด็กเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดหน้าประจำตัว และวางแปรงสีฟันที่ใช้แล้วในแก้วน้ำประจำตัวเพื่อให้ครูหรือผู้ดูแลเด็กนำไปล้างให้สะอาดทีละด้าม จัดเก็บแปรงสีฟันในแนวตั้งในที่โปร่ง อากาศถ่ายเทดี และอุปกรณ์ไม่ปะปนกันหรือสัมผัสกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการแปรงฟัน ควรมีผู้ใหญ่หรือครูผู้ดูแลเด็กตรวจความสะอาดหลังการแปรงฟันด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

              ทางด้าน ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม รักษาราชการทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) กล่าวว่า การแปรงฟันให้สะอาดเพื่อป้องกันฟันผุ ขอให้ใช้สูตร 2–2-2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์   อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนแปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และไม่กินอาหาร หรือเครื่องดื่มหลัง    แปรงฟันนาน 2 ชั่วโมง และควรฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่าการแปรงฟันเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน และจะพัฒนาเป็นสุขนิสัยเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การแปรงฟันในเด็กวัยนี้นอกจากจะช่วยป้องกันฟันผุแล้ว ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กล้ามเนื้อมือที่ใช้ในการหยิบจับ ถือเป็นพื้นฐานในการพัฒนาการเขียน การใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดจนช่วยเหลือตัวเองในด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับตัว ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านสติปัญญาของเด็กในอนาคต

***

 

 

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH