แนะ 4 ร. สกัดโรคมือ เท้า ปาก คุมเข้มศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนอนุบาล

  • 18 ตุลาคม 2561
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะใช้ 4 ร. สกัดโรคมือ เท้า ปาก ในโรงเรียน คุมเข้มศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ให้มีมาตรการตรวจคัดกรองเด็กทุกวัน พร้อมให้ผู้ปกครองสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบเด็กมีไข้ หรือมีอาการสงสัยเป็นโรคมือ เท้า ปากให้หยุดเรียนและพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
        นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งจะมีอากาศเย็น และชื้น ทำให้โรคมือ เท้า ปากกลับมาระบาดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำ และในช่วงเปิดเทอมเด็กต้องอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียน หากไม่มีการเฝ้าระวังอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ จากข้อมูลเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม – 20 พฤษภาคม 2561 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวน 12,174 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 1 ปี ร้อยละ 27.85 รองลงมา 2 ปี ร้อยละ 22.62 และ 3 ปี ร้อยละ 16.70 พ่อแม่ ครู ควรดูแลเด็ก พร้อมเฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก ด้วยหลัก 4 ร. คือ 1) ร.รักษาความสะอาดสถานที่ บ้าน โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก 2) ร.รักษาสุขอนามัย หมั่นล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร และ หลังขับถ่าย 3) ร. รู้ทันสังเกต มีไข้ มีจุด หรือผื่นแดงบริเวณมือ เท้า ปาก และ 4) ร.ระวัง ไข้สูง หอบเหนื่อย ซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรง รีบพาพบแพทย์ทันที
        นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน นับเป็นจุดเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าว ควรตรวจคัดกรองเด็กทุกวัน หากพบเด็กมีไข้หรือมีอาการสงสัยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ให้หยุดเรียน และควรดูแลรักษาความสะอาดในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน เน้นการล้างทำความสะอาดสถานที่ ห้องน้ำ ห้องส้วม ของใช้ ของเล่น ภาชนะที่เด็กใช้ร่วมกัน โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอรีน หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ตามบ้านเรือน และหากเป็นสิ่งของเครื่องใช้ของเด็กที่มีการนำเข้าปากให้ล้างด้วยน้ำและสบู่ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและนำไปตากแดดหรือเช็ด ให้แห้ง หากมีเด็กป่วยเพิ่มขึ้นให้ปิดห้องเรียนหรือโรงเรียนและจัดการทำความสะอาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ที่สำคัญควรจัดหาอุปกรณ์ให้เด็กได้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ก่อนกินอาหารและหลังจากขับถ่าย รวมทั้งควรจัดเตรียมเครื่องใช้ของเด็กแยกเป็นรายบุคคลไม่ให้ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงดูเด็กเล็กต้องล้างทำความสะอาดมือก่อนหยิบจับอาหารให้เด็กกิน และอาหารต้องไม่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำต้องสะอาด ผ้าอ้อมหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระต้องรีบซักให้สะอาดโดยเร็ว และทิ้งน้ำลงในโถส้วม ห้ามทิ้งลงท่อระบายน้ำ เป็นต้น “ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัสลำไส้ หรือ เอนเทอโรไวรัสหลายชนิด โดยเชื้อจะติดมากับมือหรือของเล่น ที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากตุ่มพอง แผล และอุจจาระของผู้ป่วย หรือเกิดจากการไอ จามรดกัน ทุกฝ่ายจึงต้องสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด เด็กจะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 3–6 วัน จะมีไข้ เกิดจุดหรือผื่นแดงที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อาจมีอาการเจ็บปากน้ำลายไหล ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใสบริเวณรอบๆ อักเสบแดง และแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน แต่หากพบอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง ซึม ชัก อาเจียนบ่อย หอบเหนื่อย แขน ขาอ่อนแรง ต้องส่งโรงพยาบาลหรือส่งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที”อธิบดี กรมอนามัย กล่าว
 
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 30 พฤษภาคม 2561

 

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH