กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือน อันตรายในช่วงฝนตกแนะบุตรหลานดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงฝนตกถนนและพื้นทางเดินจะเฉอะแฉะ เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจเสี่ยงได้รับบาดเจ็บจากการลื่นล้มหรือพลัดตกบนทางต่างระดับได้ง่าย เมื่อผู้สูงอายุออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน ซึ่งจากสถิติพบว่าผู้สูงอายุไทยอายุตั้งแต่ 60ปีขึ้นไป เสียชีวิตจากการลื่นล้มและพลัดตกในพื้นที่ต่างระดับสูงถึงปีละ 1,600 คน โดยสาเหตุหลักการตายอันดับที่สองในกลุ่มของการบาดเจ็บ โดยไม่ตั้งใจ รองจากการบาดเจ็บบนท้องถนน และปัญหาที่พบบ่อยของผู้สูงอายุที่ได้รับอุบัติเหตุ คือ กระดูกสะโพกแตก หัก หรืออุบัติเหตุทางสมอง ส่งผลทำให้พิการและอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 – 2560 พบการ เสียชีวิตจากการลื่นล้มและพลัดตกในพื้นที่ต่างระดับของผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยมากกว่า 800 คนต่อปี หรือประมาณ 3 คนต่อวัน ปัญหา คือ การทรงตัวไม่ดี มีปัญหา ด้านทางสายตา และปัญหาทางการได้ยิน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
“ทั้งนี้ วิธีป้องกันและดูแลความปลอดภัยผู้สูงอายุเวลาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน บุตรหลานควรเดินทางไปพร้อมผู้สูงอายุเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องเลือกรองเท้ากันลื่นให้กับผู้สูงอายุ เพื่อช่วยในการทรงตัว ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่เฉอะแฉะได้ เพราะหากเกิดการลื่นล้ม สะดุด หรือพลัดตก อาจจะไม่ใช่แค่เคล็ดขัดยอก แต่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในกรณีที่อยู่ภายในบ้านไม่ควรจัดวางพรม เสื่อ ผ้ายาง หรือ ผ้าปูรองพื้นให้เกิดการลื่นล้มได้ ส่วนบันไดเป็นจุดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง ควรสร้างพื้นบันไดให้ไม่ลื่น และมีแสงสว่างเพียงพอในบริเวณนั้น รวมถึงการจัดวางของที่จำเป็นให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการนำ ไปใช้ เพื่อป้องกันผู้สูงอายุสะดุด ลื่น หกล้มจนได้รับบาดเจ็บ สำหรับห้องน้ำซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ภายในห้องน้ำต้องมีราวจับที่สามารถเดินได้ทั่วภายในห้องน้ำ พื้นต้องแห้งและควรมีระดับเสมอกับพื้นภายนอก มีระบบระบายน้ำได้ดี ห้องน้ำที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ไม่ควรอยู่ไกลจากห้องนอน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุ” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 25 พฤษภาคม 2561