ยิ้มอย่างมั่นใจในวัยสูงอายุ

  • 27 พฤษภาคม 2562

        เมื่ออายุมากขึ้น สภาพช่องปากจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เช่น เยื่อบุช่องปากบางลง การรับรสเปลี่ยนไป ผู้สูงอายุบางรายจึงอาจรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในปากทั้งๆ ที่ใช้ยาสีฟันยี่ห้อเดิม หรือรับประทานอาหารรสเผ็ดได้น้อยลง รวมถึงเกิดแผลในช่องปากบ่อยๆ ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากแบบเดิมจึงอาจไม่เพียงพอ ผู้สูงอายุควรใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากเพิ่มมากขึ้นด้วยการปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้

  1. แปรงฟันให้ถูกวิธีด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์นานอย่างน้อย 2 นาที โดยใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันที่มีขนาดเหมาะสมกับความกว้างของซอกฟันร่วมด้วยทุกวัน เพื่อลดการเกิดโรคปริทันต์ ฟันผุ ฟันสึก และการสูญเสียฟัน
  2. พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากความผิดปกติบางอย่าง ผู้สูงอายุอาจไม่สังเกตเห็นด้วยตนเองได้ ไม่ควรรอให้มีอาการในช่องปาก เพราะอาจทำให้ต้องรับการรักษาเพิ่มมากขึ้น
  3. อาการปากแห้ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุซึ่งการเกิดอาจมีสาเหตุมาจากการกินยารักษาโรคทางระบบ หรือการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสีและเคมีบําบัดบริเวณศีรษะและลําคอ สามารถลดอาการปากแห้ง ได้ด้วยการกระตุ้นน้ำลายจากการรับประทานอาหารที่มีกากใย จิบน้ำทีละนิดแต่บ่อยๆ
  4. รับประทานอาหารที่มีกากใยเพื่อกระตุ้นการบดเคี้ยว และช่วยขัดสีทำความสะอาดตัวฟัน ลดปริมาณอาหารที่มีรสหวาน เพื่อป้องกันฟันผุ
  5. การดูแลแผลในช่องปาก โดยปกติแผลในช่องปากสามารถหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ หากเป็นแผลอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาต่อไป

สำนักทันตสาธารณสุข

19 เมษายน 2562

แหล่งที่มา : 

– Website : www.bumrungrad.com/th/health-blog/living-longer-better-geriatric-health-care/aging-oral-health-geriatric-problems-care

– Website : www1.si.mahidol.ac.th/km/sites/default/files/u11/old.pdf

© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH