การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับสถานีขนส่งสาธารณะ
แนวปฏิบัติสําหรับผู้จัดการ ผู้ประกอบการ หรือผู้รับผิดชอบอาคารสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน
- สถานีผ่านเกณฑ์การประเมิน Thai Stop COVID plus มี Certificate ติดแสดงชัดเจน และคัดกรองความเสี่ยงของพนักงานทุกคนด้วย Thai Save Thai
- กําหนดทางเข้า-ออก และจัดให้มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร พนักงานอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งทําสัญลักษณ์ผู้ที่ผ่านคัดกรอง เช่น ติดสติกเกอร์ ตราปั๊ม หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสม
- พนักงาน และผู้โดยสารทุกคน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการ และใช้บริการ และอาจมีอุปกรณ์เพิ่มเติมสําหรับพนักงาน ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสาร เช่น ถุงมือ แผ่นใสครอบหน้า (Face shield) เป็นต้น
- จิตให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการอย่างเหมาะสม
- มีการติดตามข้อมูลผู้เดินทาง เช่น มีสมุดลงทะเบียน หรือการใช้ แอปพลิเคชันตามที่ราชการกําาหนด
- มีการควบคุม จํากัดจํานวนผู้โดยสาร ไม่ให้แออัด และให้มีการเว้นระยะห่าง ระหว่างรอรับบริการ
- จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีและเพียงพอ ภายในอาคาร และมีการทําความสะอาด เครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- อาคารสถานี มีการทําความสะอาดพื้นที่โดยรอบ บริเวณพื้นผิว อุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วมกัน ด้วยนายาทําความสะอาดและอาจฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปรคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว 0.1%) หรือแอลกอฮอล์ 70 % ดังนี้
- จุดที่มีการสัมผัสร่วมทุก 1-2 ชั่วโมง เช่น เคาน์เตอร์จําหน่ายตั๋วโดยสาร ปุ่มกดตู้เช็คอิน ปุ่มกดตู้จําหน่ายเครื่องดื่ม มือจับประตู ราวบันได-บันไดเลื่อน ลิฟต์ เก้าอี้ เป็นต้น
- ทําความสะอาดห้องส้วมทุก 2 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาทําความสะอาดโดยเน้นจุดเสี่ยง ที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ ได้แก่ กลอนหรือลูกบิดประตู ฝารองนั่ง ฝาปิดชักโครก ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ ที่กดโถส้วมหรือโถปัสสาวะและสายฉีดน้ำชําระ
- มีมาตรการป้องกันตนเองสําหรับพนักงานทําความสะอาด พนักงานเก็บรวบรวมขยะ โดยสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ ผ้ากันเปื้อน รองเท้าพื้นยางหุ้มแข็ง ใช้ที่คีบด้ามยาว เก็บขยะใส่ถุง มัดปากถุงให้มิดชิด นําไปรวบรวมไว้ที่พักขยะ
- กรณีที่มีร้านอาหาร หรือมีการจําหน่ายอาหาร ให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข สําหรับการจําหน่ายอาหารในศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหารหรือร้านเครื่องดื่มทั่วไป
- บริการนํ้าดื่มที่สะอาด ไม่ใช้แก้วร่วมกัน • หากผู้สัมผัสอาหารมีอาการเจ็บป่วย
- ปกปิดอาหารด้วยภาชนะหรือวัสดุที่สะอาด เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูกหรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดงานและพบแพทย์ทันที
- ให้สถานที่จําหน่ายอาหารสะอาด
- ดูแลให้ผู้สัมผัสอาหารปฏิบัติตัวให้ถูกสุขลักษณะ ด้วยการล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาด ก่อนหยิบหรือจับอาหาร สวมหมวกคลุมผม สวมหน้ากากขณะปฏิบัติงาน ไม่ใช้มือหยิบจับ อาหารที่พร้อมรับประทานโดยตรง
- ล้างภาชนะอุปกรณ์หรือสิ่งของเครื่องใช้ด้วยน้ำยาล้างจานให้สะอาด ทําความสะอาด โต๊ะอาหาร ด้วยน้ำยาทําความสะอาดทุกครั้งหลังมีผู้มาใช้บริการ
- มีช่องทางการจําหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัส
- ผู้ประกอบการภายในสถานีขนส่งสถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน ให้ปฏิบัติ ตามมาตรการที่ราชการกําหนด
- ให้มีผู้รับผิดชอบ ติดตาม กํากับการปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด
แนวปฏิบัติสําหรับการจัดการยานพาหนะ
- รถประเภทราง ให้มีการเปิดระบายอากาศภายใน ขบวนเป็นระยะและระบายอากาศ เมื่อถึงสถานีปลายทาง
- รถโดยสารระบบปรับอากาศ ต้องมีการระบายอากาศดีด้วยการเปิดประตู และหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศทุกครั้งเมื่อจอดพัก และทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- รถโดยสารระยะไกล ควรแวะพักทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อเปิดระบายอากาศ
- เพิ่มความถี่ในการทําความสะอาดบริเวณที่ใช้งานร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู เบาะที่นั่ง/นอน ที่พักแขน ราวจับ เป็นต้น ด้วยน้ำยาทําความสะอาด และอาจใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อโรคร่วมด้วย รวมถึงทําความสะอาดยานพาหนะก่อนและหลังการเดินทางในแต่ละรอบ
- ในระหว่างการเดินทาง หากจัดบริการอาหาร ควรจัดบริการในลักษณะที่ปลอดภัย ลดการสัมผัสอุปกรณ์ร่วมกัน เช่น จัดอาหารแบบกล่อง(Box set) และควรเลือกอาหาร ที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ปลอดภัย รวมทั้งนํ้าดื่มที่สะอาด
- มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการบนยานพาหนะอย่างเพียงพอ
- หากยานพาหนะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน ต้องเปลี่ยนใหม่ ทุกรอบที่ให้บริการ ไม่นํามาใช้ซ้ำ
- ทําความสะอาดห้องส้วมบนยานพาหนะทุก 2 ชั่วโมง โดยเน้นบริเวณจุดเสี่ยง เช่น กลอนลูกบิดประตู ที่กดโถส้วม หรือโถปัสสาวะ สายฉีดนํ้าชำระ
- มีการเก็บรวบรวมขยะบนยานพาหนะ ใส่ถุงมัดปากถุงให้มิดชิด และนําไปกําจัด หลังเสร็จสิ้นการขนส่งผู้โดยสารในแต่ละรอบ
แนวปฏิบัติตนสําหรับพนักงาน (พนักงานขับรถ พนักงานต้อนรับ พนักงานทําความสะอาด)
- มีการควบคุมกํากับให้พนักงานมีการคัดกรองความเสี่ยง ด้วยไทยเซฟไทย (Thai Save Thai)
- ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด
- ผู้ประกอบการและพนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือเคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อนอยู่ในช่วง 1-3 เดือน และทําการตรวจคัดกรองด้วย ATK ทุก 7 วัน
- พนักงานงดการรวมกลุ่มขณะปฏิบัติงานระหว่างพัก งดรับประทานอาหารร่วมกัน งดการทํางานข้ามเขต/แผนก
แนวปฏิบัติตนสําหรับผู้โดยสาร
- สังเกตอาการตนเองสม่ำเสมอ หากมีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการ ดังต่อไปนี้ ได้แก่ มีไข้ หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลําบาก ให้งดใช้บริการขนส่งสาธารณะ
- จัดเตรียมอุปกรณ์สํารองในการเดินทาง เช่น หน้ากากสำรอง เผื่อเปียกชื้น เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาการเดินทาง ละเว้นการเปิดหน้ากากโดยไม่จําเป็น
- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร
- ควรงดกินอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเดินทาง หลีกเลี่ยงการพูดคุยโดยไม่จําเป็น
- ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนขึ้นรถโดยสารประจําทาง รถไฟ เรือ เครื่องบินและหลังการใช้บริการ หรือทุกครั้งที่มีการสัมผัสอุปกรณ์สิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และเมื่อกลับถึงบ้าน ควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือมาตรการในการเดินทาง เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
- ผู้โดยสารทุกคนมีการคัดกรองด้วย Thai Save Thai (TST) หรือแอปอื่น ๆ
- มีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือใบรับรองแสดงประวัติเคยติดเชื้อมาก่อน อยู่ในช่วง 1-3 เดือน หรือผลการตรวจ ATK ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน (เป็นเอกสาร หรือหลักฐาน digital ตามที่กําหนด) หรือเป็นไปตามเงื่อนไขจากจังหวัดปลายทาง
การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานีขนส่งสาธารณะ
สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน
- อาคารสถานี สถานที่จําหน่ายบัตรโดยสาร ชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ศูนย์การขนส่งสาธารณะ ภายในท่าอากาศยาน ล็อบบี้ ร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบ มีการจัดสภาพแวดล้อม ที่เป็นระเบียบทั้งภายในและภายนอกอาคารเป็นสัดส่วน อุปกรณ์ที่ให้บริการประชาชนมีความสะอาดปลอดภัย
- มีการจัดระเบียบการจราจรภายในสถานีขนส่งสาธารณะ เพื่อป้องกันมลพิษและฝุ่นละออง
- มีการควบคุมสัตว์และแมลงพาหะนําโรค ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่ปลอดภัย
- มีการทําความสะอาดโดยรอบ บริเวณพื้นผิว และบริเวณที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น เก้าอี้นั่งพักคอย เคาท์เตอร์จําหน่ายตั๋วโดยสาร ปุ่มกดตู้จําหน่ายเครื่องดื่ม มือจับประตู ลูกบิดประตู ราวบันได เป็นประจําทุกวัน
- จัดให้มีระบบระบายอากาศภายในอาคารที่ดี เช่น เปิดประตู หน้าต่าง เป็นระยะ เพื่อให้อากาศถ่ายเท ทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นอาคารปิดและใช้ระบบปรับอากาศ ให้มีการทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ และแนะนําให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ภายในอาคารอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ คาร์บอนไดออกไซด์ ฝุ่นละออง เป็นต้น
- กรณีใช้ระบบปรับอากาศแบบหอพึ่งเย็น ต้องมีการจัดการเชื้อแบคทีเรียชนิดลีจิโอเนลลา (Legionella) ด้วยการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างเหมาะสม และเป็นไปตามประกาศกรมอนามัยเรื่อง ข้อปฏิบัติการควบคุมเชื้อลีจิโอเนลลาในหอผึ่งเย็นของอาคารในประเทศไทย
- สถานที่จําหน่ายอาหาร ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ในบริเวณอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารต้องดําเนินการ ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จําหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 และร้านอาหารได้รับ ใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจากพนักงานท้องถิ่น หรือได้ป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste และ Clean Food Good Taste Plus) หรือป้ายรับรอง ของหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น
- มีระบบป้องกันอัคคีภัยและการอพยพหนีไฟเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกําหนด
- การจัดการส้วมสาธารณะสําหรับให้บริการผู้โดยสาร ให้ดําเนินการตามมาตรฐานส้วมสาธารณะ ระดับประเทศ (HAS) เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรคติดต่อจะเน้นพัฒนาส้วมให้บรรลุ 3 เรื่อง คือ สะอาด (Health : H) เพียงพอ (Accessibility : A) ปลอดภัย (Safety : S)
- การจัดการสิ่งปฏิกูล ในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ควรปฏิบัติดังนี้
- ระบบท่อและระบบเก็บกักอุจจาระหรือบ่อเกรอะ (Septic Tank) อยู่ในสภาพใช้การได้ดีไม่แตกและไม่รั่วซึม
- บ่อเกรอะมีการติดตั้งท่อระบายอากาศ เพื่อช่วยระบายก๊าซที่เกิดขึ้นในบ่อเกรอะ
- มีการสูบสิ่งปฏิกูลในบ่อเกรอะไปกําจัดเมื่อส้วมเต็มหรือสิ่งปฏิกูลมีปริมาณมาก ถังเกรอะที่ออกแบบไว้
- ในการสูบสิ่งปฏิกูลควรใช้บริการจากรถสูบสิ่งปฏิกูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือรถสูบ ของบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดการมูลฝอย มูลฝอยที่เกิดขึ้นจากสถานีขนส่งสาธารณะประกอบด้วย มูลฝอยทั่วไป มูลฝอยอันตราย ควรมีการนําเนินการ ดังนี้
- จัดให้มีภาชนะรองรับมูลฝอยเพียงพอ มีฝาปิดมิดชิด มีความแข็งแรงทนทาน ไม่รั่วซึมมีขนาดเหมาะสม สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกและง่ายต่อการถ่ายและเทมูลฝอย รวมทั้ง มีข้อความว่า “มูลฝอยทั่วไป” มีขนาดและสีของข้อความที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
- มีการคัดแยกมูลฝอยทั่วไป คือ มูลฝอยรีไซเคิล มูลฝอยอินทรีย์ และมูลฝอยอื่นๆ
- ให้มีการเก็บรวบรวมมูลฝอยเป็นประจํา มีการทําความสะอาดภาชนะรองรับมูลฝอย และบริเวณโดยรอบเป็นประจําทุกวัน
- มีที่พักรวมมูลฝอยที่เป็นสัดส่วน ถูกสุขลักษณะ แยกตามชนิดของมูลฝอยเพื่อสะดวก ในการนําไปกําจัดให้ถูกต้องต่อไป ทั้งนี้ จุดรวบรวมมูลฝอยต้องสามารถป้องกันสัตว์ และแมลงพาหะนําโรคได้
- ต้องมีการกําจัดมูลฝอยแต่ละประเภทที่ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล เลือกวิธีการกําจัดที่เหมาะสม
- การจัดการนํ้าเสีย
- มีการติดตั้งบ่อดักไขมันบริเวณท่อระบายน้ำเสียก่อนเข้าสู่ระบบบําบัดน้ำเสีย
- มีการติดตั้งระบบบําบัดน้ำเสียเพื่อบําบัดน้ำเสียของสถานีขนส่งโดยสารสาธารณะ และการระบายน้ำทิ้งหลังผ่านการบําบัดแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และได้มาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งตามที่กฎหมายกําหนด (ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานีขนส่งสาธารณะ
การทําความสะอาดยานพาหนะ ประเภทรถโดยสารแบบปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ ทำความสะอาดในจุดที่สําคัญที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ด้วยน้ำยาทําความสะอาดทุกรอบที่ให้บริการ
- ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร
- เบาะนั่งและหนักพิงด้านหน้าและด้านหลัง
- ช่องแอร์เหนือหัวผู้โดยสาร
- ที่พักแขน
- ราวจับบริเวณประตู
และอุปกรณ์ในการให้บริการอื่น ๆ เช่น ถาดวางอาหาร/แก้ว ปุ่มปรับระดับเบาะ หน้าจอทีวีหลังเบาะ หูฟัง เป็นต้น
- มีการระบายอากาศที่ดี ทําความสะอาด พัดลมระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- รถทุกคันจัดให้มีการถอดเบาะรถโดยสาร ทุกที่นั่งออกมาเพื่อเคาะฝุ่น ดูดฝุ่น ตากแดด และชักทําความสะอาด
- จัดให้มีการถอดผ้าม่านมาซักตากหรือการสตรีมผ้าม่าน การถอดฝาปิดช่องแอร์มาล้างการจัดทําความสะอาดภายในรถ คอนโซลคนขับ ซึ่งการทําความสะอาดขั้นสูงโดยเฉลี่ยรถ 1 คัน จะถูกทําทุก 2 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ
- สําหรับห้องส้วมในรถทัวร์แบบปรับอากาศ ต้องไม่มีกลิ่นเหม็น ให้ทําความสะอาด ด้วยน้ำยาทําความสะอาด ทุกรอบที่ให้บริการ และเน้นในจุดสําคัญที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย เช่น ที่จับราวประตู โถส้วม ที่กดชักโครก สายฉีดน้ำชําระ เป็นต้น จัดให้มีสบู่ล้างมือ หรือเจลแอลกอฮอล์ และกระดาษเช็ดมือในห้องส้วมให้เพียงพอ
- กรณีมีการจัดบริการอาหารในรถให้เลือกผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านสุขาภิบาลอาหาร
- กรณีที่รถโดยสารมีอุปกรณ์อํานวยความสะดวก อื่น ๆ เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน ต้องเปลี่ยนทุกรอบ ที่ให้บริการและนําไปซักให้สะอาด
การทําความสะอาดยานพาหนะประเภทรถตู้โดยสาร
ทําความสะอาดในจุดที่สําคัญที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ด้วยน้ำยาทําความสะอาดทุกรอบที่ให้บริการ
- กระจกภายในรถ
- ที่ปรับระดับเบาะ
- สายรัดเข็มขัดนิรภัย
- ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร
- คอนโซลหน้ารถ
- ที่จับเปิดประตูด้านในและด้านนอก
- เบาะนั่งและพนักพิงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ซักทําความสะอาดผ้าม่านเป็นประจํา เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
- มีการระบายอากาศภายในรถ และทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศ อย่างสม่ำเสมอ
การทําความสะอาดยานพาหนะตู้โดยสารบนขบวนรถไฟ
การทําความสะอาดยานพาหนะ ให้ทําความสะอาดในจุดสําคัญที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย
- ราวจับบริเวณประตู
- พนักพิงด้านหน้าและด้านหลัง
- ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร
- ที่พักแขน
- เบาะนั่ง/นอน
- มีการระบายอากาศที่ดี ทําความสะอาด พัดลมระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- ซักทําความสะอาดจุดที่อาจมี การสะสมของเชื้อโรคเป็นประจํา เช่น ผ้าม่าน ผ้าห่ม ปลอกหมอน
- กรณีที่ขบวนรถไฟมีผู้นอน และมีอุปกรณ์อํานวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน ต้องเปลี่ยนทุกรอบที่ให้บริการ นําไปซักทําความสะอาดและผึ่งให้แห้ง เพื่อป้องกันโรคติดต่อ ที่เกิดจากสัตว์พาหะนําโรค ได้แก่ ไรฝุ่น ตัวเรือด
- สําหรับห้องส้วมในรถไฟ ต้องไม่มีกลิ่นเหม็น ให้ทําความสะอาดด้วยนายาทําความสะอาด ทุกรอบที่ให้บริการ และเน้นในจุดสําคัญที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ที่จับประตู โถส้วม ที่กดชักโครก สายฉีดชําระ เป็นต้น และจัดให้มีสบู่สําหรับล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ และกระดาษชําระในห้องส้วมให้เพียงพอ
- ในกรณีที่มีการจัดบริการอาหารในรถไฟ ให้เลือกผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ด้านสุขาภิบาลอาหาร งดเสิร์ฟอาหารเสี่ยง ได้แก่ อาหารที่ไม่ผ่านความร้อน (เช่น แซนวิช สลัด) และเลือกอาหารแช่แข็งอุ่นร้อนที่มีเลขสารบบอาหาร (เครื่องหมาย อย.)