คำแนะนำการป้องกันความเสี่ยงและการดูแลตัวเอง กรณีความร้อน
1. เด็กแรกเกิด – 5 ขวบ : “อากาศร้อน ต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด”
- ดูแลให้เด็กดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน
หมายเหตุ: เด็กแรกเกิดที่ยังดื่มนมแม่ คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ เด็กอายุ 1 – 3 ปี ควรดื่มน้ำ 1.3 ลิตรต่อวัน และเด็กอายุ 4 – 5 ปี ควรดื่มน้ำ 1.7 ลิตรต่อวัน
- หลีกเลี่ยงให้เด็กดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- ควรดูแลเด็กให้อยู่ในบ้านพัก อาคารหรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำใช้พัดลม โดยเปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่ามาที่ตัวเด็กโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศที่ร้อน
หมายเหตุ: เพราะที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส หากเปิดพัดลมจ่อเข้าตัว ความร้อนจะเป่าเข้าสู่ตัวทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
- หากอากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงพาเด็กออกนอกบ้าน ถ้าจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว มีสีอ่อน หลวม มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี และกางร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด
- อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ในรถที่จอดตากแดดตามลำพังโดยเด็ดขาด
หมายเหตุ: รถที่จอดตากแดดโดยไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ได้ภายใน 20 นาที
- ดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้ใหญ่ หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน ควรพบแพทย์ทันที
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อสายด่วน 1669
2. ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป : “อากาศร้อน ผู้สูงอายุควรสังเกตอาการ หากผิดปกติรีบไปพบแพทย์”
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ
หมายเหตุ: ผู้ชายควรดื่มน้ำ 3.7 ลิตรต่อวัน ผู้หญิงควรดื่มน้ำ 2.7 ลิตรต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำใช้พัดลม โดยเปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่าเข้าตัวโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศที่ร้อน
หมายเหตุ: เพราะที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส หากเปิดพัดลมจ่อเข้าตัว ความร้อนจะเป่าเข้าสู่ตัวทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
- หากอากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน ถ้าจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวมีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา
- หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิด และควรพบแพทย์ทันที
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อสายด่วน 1669
3. ผู้ป่วยหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว : “อากาศร้อน คนมีโรคประจำตัวเตรียมยาให้พร้อม”
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ
หมายเหตุ: ผู้ชายควรดื่มน้ำ 3.7 ลิตรต่อวัน ผู้หญิงควรดื่มน้ำ 2.7 ลิตรต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำใช้พัดลม โดยเปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่าเข้าตัวโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศที่ร้อน
หมายเหตุ: เพราะที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส หากเปิดพัดลมจ่อเข้าตัว ความร้อนจะเป่าเข้าสู่ตัวทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
- หากอากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน ถ้าจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวมีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา
- เตรียมยาให้พร้อม และหากเป็นผู้ป่วยติดเตียง ควรดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ควรปล่อยให้อยู่ตามลำพัง
- หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิด และควรพบแพทย์ทันที
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อสายด่วน 1669
4. ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน : “อากาศร้อน เลี่ยงทำงานกลางแจ้ง ช่วง 11.00 -15.00 น. และดื่มน้ำทุก 15 นาที”
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ทุก ๆ 15 นาที ในระหว่างที่ทำงาน ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- เปลี่ยนตารางเวลาทำงานกลางแจ้ง โดยเริ่มทำงานในช่วงเช้า หลีกเลี่ยงการทำงานในช่วง 11.00-15.00 ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดของวัน
หมายเหตุ: Centers for Disease Control and Prevention (CDC) มีคำแนะนำให้ผู้ที่ทำงานหลีกเลี่ยงทำงานกลางแจ้ง ในช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดของวัน คือ 11.00 – 15.00 น.
- ในช่วงพักควรเข้าไปอยู่ในร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ภายในอาคารหรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ
- ควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวมีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี ทาครีมกันแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา
- ควรทำงานเป็นกลุ่ม และหมั่นสังเกตอาการผู้ร่วมงานซึ่งกันและกัน หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งผู้ดูแล หัวหน้างาน หรือผู้ใกล้ชิด
- ผู้ประกอบการควรอบรมพนักงานในการดูแลผู้ป่วยหรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669
5. ผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง : “อากาศร้อน ผู้ที่ออกกำลังกาย ควรหลีกเลี่ยงออกกำลังกาย กลางแจ้ง และดื่มน้ำบ่อย ๆ”
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในช่วงที่อากาศร้อน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วง 11.00-15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดของวัน
- สวมใส่ชุดออกกำลังกายที่ระบายความร้อนได้ดี หากจำเป็นต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง สวมหมวกบังแดด ทาครีมกันแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา
- ควรออกกำลังกายเป็นกลุ่ม และหมั่นสังเกตอาการผู้ร่วมออกกำลังกายซึ่งกันและกัน หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ตะคริว คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที และควรพัก โดยเข้าไปอยู่ในร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือภายในอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วน 1669
6. หญิงตั้งครรภ์ : “อากาศร้อน หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง และดื่มน้ำบ่อย ๆ ”
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- ควรอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำใช้พัดลม โดยเปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่าเข้าตัวโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศที่ร้อน
หมายเหตุ: เพราะที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส หากเปิดพัดลมจ่อเข้าตัว ความร้อนจะเป่าเข้าสู่ตัวทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
- หากอากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน ถ้าจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวมีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา
- หากมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ตะคริว ผดผื่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันที
- ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อสายด่วน 1669