น้ำหนัก “เกิน” รอบเอว “หนา” ปัญหาหลักของคนยุคนี้ หากยังคงสนุกเพลินกับการกินและเมินการออกกำลังกายไม่นานโรคร้ายต้องรุมเร้า เห็นได้ชัดคือ โรคอ้วน ตามติดด้วยโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หนักสุดอาจถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
เริ่มสำรวจตัวเองตั้งแต่วันนก่อนที่จะสายเกินไปด้วยการก้มมองหน้าท้องว่ามีพุงยื่นหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจก็หยิบสายวัดมาวัดรอบเอว ตรงสะดือ ถ้าผู้หญิงมีรอบเอวเกิน 80 ซม. และผู้ชายมีรอบเอวเกิน 90 ซม. นั่นหมายถึง คุณมีภาวะ อ้วนลงพุง เป็นสัญญาณอันตราย นำไปสู่โรคร้ายอย่าเพิ่งตกใจไป เพราะปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยหลักปรับเปลี่ยน พฤติกรรม “3 อ.” พิชิตอ้วนลงพุง ที่ปฏิบัติได้ง่ายและได้ผลจริง
อ. อาหาร
ต้นเหตุแรกของน้ำหนักตัวและรอบเอวที่ พุ่งสูงขึ้น ต้องเริ่มต้นที่การรู้จักกินเป็น เน้นผัก รู้ปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน ลดหวาน มัน เค็มในทุกมื้อ ที่สำคัญให้เพิ่มผักและผลไม้ที่ รสไม่หวานทุกมื้ออาหาร
อ. ออกกำลังกาย
กินมาก เผาผลาญน้อย ไขมันจึงไปสะสม ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง แขน ขา ลำตัว การออกกำลังกายเป็นการ เผาผลาญพลังงานที่ดีเยี่ยม แถมช่วยให้ปอด กล้ามเนื้อและหัวใจแข็งแรงด้วย โดยเลือกรูปแบบ ออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวคุณ เช่นเต้นแอโรบิก เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ทำให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที
อ. อารมณ์
จะเริ่มหรือจะเลิกก็อยู่ที่อารมณ์ของคุณ เพราะความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเป้าหมายที่ดีในการ ลดความอ้วน จะเป็นแรงกระตุ้นให้คุณประสบ ความสำเร็จ ในขณะที่ครอบครัวและคนรอบข้าง ต้องร่วมเป็นกำลังใจสร้างฝันให้เป็นจริงด้วยสุขภาพดีขึ้นได้ ถ้าน้ำหนักตัวลดลงร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักเริ่มต้น จะทำให้ไขมันใน ช่องท้อง ลดลงไปได้ร้อยละ 30 ไขมันในเลือด น้ำตาล ในเลือดลดลง และความดันโลหิต ลดลงด้วย
ดังนั้น การตั้งเป้าหมายอย่างจริงจังที่จะ พิชิตอ้วน ด้วยหลัก “3 อ.” ตั้งแต่วันนี้ ถือเป็น จุดเริ่มต้นที่ดีของการมีสุขภาพดีในระยะยาว