#ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ประกอบการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้มงวดในการดูแลและรักษาความสะอาดตู้น้ำหยอดเหรียญ รวมถึงขอให้ผู้ใช้บริการให้ความร่วมมือเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ยังไม่พบหลักฐานการพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำผิวดิน น้ำบาดาล น้ำประปาหรือน้ำบริโภค เนื่องจากไวรัสชนิดนี้ มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่ำ และถูกทำลายได้ง่ายด้วยคลอรีนที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำประปา สำหรับการกรองด้วยเยื่อกรองขนาดรูพรุนต่ำกว่า 100 นาโนเมตร เช่น การกรองแบบ Ultra Filtration (UF) Nano Filtration (NF) และ Reverse Osmosis (RO) สามารถกรองเชื้อไวรัสดังกล่าวได้ นอกจากนั้นยังสามารถกำจัดได้ด้วยแสง Ultraviolet (UV) ด้วย ในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำและการฆ่าเชื้อโรคดังกล่าวได้ออกแบบไว้ในตู้น้ำหยอดเหรียญและที่สำคัญตู้น้ำหยอดเหรียญส่วนมากใช้น้ำประปาที่มีคุณภาพดีอยู่แล้ว ดังนั้นความเสี่ยงที่จะพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำจากตู้น้ำหยอดเหรียญจึงค่อนข้างต่ำ แต่เนื่องจากเชื้อนี้จะสามารถอยู่บนพื้นผิวได้หลายชั่วโมงจนถึงหลายวันตามชนิดพื้นผิว เช่น อลูมิเนียม 2-8 ชั่วโมง เหล็กสแตนเลส 2 วัน แก้ว 4 วัน พลาสติก 5 วัน ซึ่งวัสดุดังกล่าวเป็นส่วนประกอบในการผลิต ตู้น้ำหยอดเหรียญ หากไม่มีการดูแลรักษาและทำความสะอาดแล้วจะทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการ เจ้าของหรือผู้ดูแลตู้น้ำหยอดเหรียญ และประชาชนผู้ใช้บริการมีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมทั้งเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีแนวทางในการให้คำแนะนำควบคุม กำกับ ดูแล การดำเนินกิจการตู้น้ำหยอดเหรียญในช่วงการเกิดโรคติดเชื้อโควิด-19
นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กรมอนามัยได้จัดทำคำแนะนำในการดูแลและใช้บริการตู้น้ำหยอดเหรียญ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการควบคุม กำกับ ดูแล และเฝ้าระวังคุณภาพจากตู้น้ำหยอดเหรียญในช่วงการเกิดโรคติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้ 1) ผู้ประกอบการ เจ้าของหรือผู้ดูแลตู้น้ำหยอดเหรียญ ต้องดูแลความสะอาดของสถานที่ตั้ง เพิ่มความเข้มงวดอย่าให้มีหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ทิ้งหรือวางไว้บริเวณสถานที่ตั้งตู้น้ำหยอดเหรียญ ทำความสะอาดบริเวณปุ่มกดและบานประตูช่องจ่ายน้ำและทำความสะอาดภายในช่องจ่ายน้ำและหัวจ่ายน้ำด้วยสารเคมีฆ่าเชื้อโรค เช่น น้ำผสมคลอรีน 0.1 เปอร์เซ็นต์ (1,000 ppm.) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เป็นต้น 2) ประชาชนผู้ใช้บริการตู้น้ำหยอดเหรียญ เลือกใช้บริการจากตู้น้ำหยอดเหรียญที่มีการดูแล บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะการเปลี่ยนหรือล้างไส้กรอง สภาพของตู้ไม่ชำรุด สะอาดทั้งภายนอกและภายใน และขอความร่วมมือในการนำภาชนะ ที่ล้างสะอาดแล้วเท่านั้นไปบรรจุน้ำ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังใช้บริการ ระวังไม่ให้มือไปจับหรือสัมผัสก๊อกน้ำในช่องจ่ายน้ำ ควรสวมหน้ากาก ไม่ไอ จาม ขณะใช้บริการ และให้เว้นระยะห่าง จากผู้ใช้บริการรายอื่นอย่างน้อย 1 เมตร
“3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรเข้มงวดในการควบคุม กำกับดูแล การรักษาความสะอาดของตู้น้ำหยอดเหรียญจากผู้ประกอบการ ตรวจเช็คการล้างหรือเปลี่ยนไส้กรองตามกำหนดเวลา ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการในการเตรียมการใช้สารเคมีทำความสะอาดตู้น้ำหยอดเหรียญอย่างถูกต้องและเหมาะสม ตามคำแนะนำ พร้อมชี้แจงแนวทางปฏิบัติในการดูแลตู้น้ำหยอดเหรียญนี้ให้แก่ผู้ประกอบการได้รับทราบ และถือปฏิบัติ รวมทั้งประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติในการใช้บริการตู้น้ำหยอดเหรียญนี้ให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ เพื่อร่วมกันลดความเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 11 เมษายน 2563