#ANAMAINEWS กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์วันน้ำโลก (22 มีนาคม ของทุกปี) โดยในปี 2567 ภายใต้แนวคิด “น้ำเพื่อสันติภาพ” (Water for Peace) เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำอย่างยุติธรรม และยั่งยืน ยึดหลัก 3C : Clear Clean Chlorine พัฒนาคุณภาพน้ำประปาให้ได้มาตรฐาน
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันน้ำโลก หรือ World Water Day โดยในปี 2567 องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดประเด็นการสื่อสารภายใต้แนวคิด “น้ำเพื่อสันติภาพ” หรือ “Water for Peace” เพื่อรณรงค์ป้องกันความขัดแย้ง จากการใช้น้ำ และส่งเสริมการใช้น้ำอย่างยุติธรรม และยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ เพื่อดื่ม และใช้ สำหรับประชาชน เป็นอันดับแรก รวมถึง การใช้ในการเกษตร ปศุสัตว์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้ทุกคนได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ปลอดภัย เข้าถึงง่าย ในราคาที่เหมาะสม ภายใต้สิทธิมนุษยชน ที่ทุกคนควรได้รับ โดยมี หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่มีภารกิจด้านการจัดหา และผลิตน้ำสะอาดกำกับดูแลเพื่อให้ได้มาตรฐาน
นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยมีภารกิจในการ จัดการคุณภาพน้ำบริโภค เฝ้าระวัง วิจัย และพัฒนารูปแบบการจัดการ คุณภาพน้ำบริโภคให้มีความเหมาะสมกับสภาพปัญหาของพื้นที่ และ สื่อสารสร้างความรอบรู้เรื่องน้ำให้แก่ประชาชน พร้อมยกระดับคุณภาพ น้ำบริโภคให้ผ่านการรับรองคุณภาพน้ำประปา ดื่มได้ น้ำประปาหมู่บ้าน สะอาด ภายใต้คุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ EHA 2000 นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ประปา จากแหล่งผลิต ทั้งการประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค ประปาเทศบาล และประปาหมู่บ้าน โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์คุณภาพน้ำ ประปาดื่มได้ของกรมอนามัย ซึ่งผลการเฝ้าระวัง พบว่า น้ำประปา จาก การประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาค ผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำ ประปา ดื่มได้ ในสัดส่วนที่มากกว่าแหล่งผลิตอื่น ซึ่งสอดคล้องกับผลการ สำรวจ ANAMAI POLL ที่พบว่า ประชาชน เพียงร้อยละ 30 เชื่อว่าน้ำ ประปาดื่มได้ เพราะมั่นใจในระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน ผู้ผลิตมีคุณภาพ มั่นใจในความสะอาด และการการันตีจากกรมอนามัย ส่วนอีก ร้อยละ 50 มีความกังวล เรื่อง ความสะอาดของสถานที่ผลิต กระบวนการ ผลิต ประชาชน ร้อยละ 58 เลือกดื่มน้ำบรรจุขวดปิดสนิท รองลงมา คือ น้ำประปาผ่านเครื่องกรอง และน้ำบรรจุถัง ประชาชน มีความพึงพอใจต่อ น้ำบรรจุขวดปิดสนิท ถึงร้อยละ 97 น้ำประปาผ่านเครื่องกรองในบ้าน ร้อยละ 86 ทั้งนี้ กิจกรรมวันน้ำโลกปี 2567 ที่ประชาชนอยากทำมากที่สุด คือ การอนุรักษ์แหล่งน้ำเพื่อรุ่นถัดไป และเสนอความคิดเห็นให้กรม อนามัยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และตรงตามความต้องการของประชาชน
“กรมอนามัยจึงได้จัดกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสีเรื่องน้ำ สะอาดในโลกของหนู สำหรับเด็กนักเรียนในโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร เพื่อ ร่วมแคมเปญน้ำเพื่อสันติภาพ โดยมีนักเรียนเข้าร่วมประกวด จำนวน 31 ผลงาน จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองแคน โรงเรียน ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเป้า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มหาราช 1 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหม่องกั๊วะ จังหวัด ตาก โรงเรียนบ้านแม่วะหลวง โรงเรียนบ้านนาเพียงเก่าสนธิราษฎร์ สามัคคี โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิงคโปร์แอร์ไลน์ เฉลิมพระเกียรติ และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบาโรย โดยผล งานที่ชนะเลิศการประกวดจะได้รับประกาศนียบัตรจาก UN-WATER และทุนการศึกษาจากกรมอนามัยและผู้ร่วมสมทบทุน โดยนักเรียนที่ได้รับรางวัลที่ 1 ระดับประถมต้น ได้แก่ ด.ญ.เฉลิมขวัญ คำชู โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านบาโรย และระดับประถมปลาย ได้แก่ ด.ช.ตะวันฉาย หงส์ทิพย์สุข โรงเรียนบ้านแม่วะหลวง” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นายแพทย์อรรถพล กล่าวในตอนท้ายว่า กรมอนามัยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพน้ำประปาให้ได้มาตรฐานทุกแหล่งผลิต โดยเฉพาะน้ำประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใต้หลัก 3C : Clear Clean Chlorine คือ 1) Clear : ระบบประปาหมู่บ้านมีการจัดสภาพแวดล้อม ตั้งแต่แหล่งน้ำดิบ ระบบผลิต ระบบการจ่ายน้ำ รวมไปถึงการบริหารจัดการที่เหมาะสม ตามหลักเกณฑ์ และมาตรฐานคุณภาพระบบประปาหมู่บ้าน 2) Clean : ระบบประปาหมู่บ้านสามารถผลิตน้ำประปามีคุณภาพตามเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ กรมอนามัย พ.ศ. 2563 และ 3) Chlorine : น้ำประปาในระบบจ่าย ต้องมีคลอรีนอิสระคงเหลือตามเกณฑ์มาตรฐาน คือ 0.2-0.5 ppm. เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน ที่ปนเปื้อนแบคทีเรียได้ ทำให้น้ำประปาหมู่บ้านมีคุณภาพ เหมาะสมสำหรับการบริโภค และสามารถลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงน้ำสะอาดของประชาชนได้ เนื่องในวันน้ำโลก กรมอนามัยขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำบริโภค หรือน้ำประปาให้ใสสะอาด ปลอดภัย และไหลแรง ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการดูแลบำรุง รักษา ระบบผลิตน้ำประปา และระบบจ่ายน้ำประปาให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ สำหรับประชาชนขอให้ ตระหนัก รู้คุณค่าของน้ำ ไม่เปิดน้ำทิ้ง สำรวจ ซ่อมแซม ดูแลระบบประปา และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำบริโภคในครัวเรือน ร่วมกันอนุรักษ์แหล่งน้ำไม่ทิ้งของเสียลงสู่แหล่งน้ำ บำบัดน้ำเสียขั้นต้นก่อนระบายลงแหล่งน้ำ รวมถึงหาวิธีที่เหมาะสมในการนำน้ำที่ใช้แล้วมาใช้ประโยชน์ในทางอื่นต่อไป
***
กรมอนามัย / 22 มีนาคม 2567