กรมอนามัย สร้างสุขภาพเด็กไทย ผ่านเครือข่ายอนามัยโรงเรียนในพื้นที่โครงการพระราชดำริ

#ANAMAINEWS วันนี้ (1 ธันวาคม 2568) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย มอบหมายให้ แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรงานอนามัยโรงเรียนอนามัยสิ่งแวดล้อมในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) และพื้นที่ภูฟ้าพัฒนา (รูปแบบ Hybrid)ระหว่างวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น พลัส แวนด้า แกรนด์ จังหวัดนนทบุรี

แพทย์อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีคุณูปการหาที่สุดไม่ได้ ในโอกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษา ในโครงการตามพระราชดำริ (กพด.) เป็นประจำทุกปี ทรงให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสภาพความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชน ในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดาร ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพ เฝ้าระวังภาวะโภชนาการและอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี เนื่องด้วยปัจจุบันสภาพแวดล้อมและปัจจัยด้านสังคมเปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมสุขภาพไม่พึงประสงค์ รวมถึงการพบสารเคมีปนเปื้อนในอาหารและน้ำบริโภคในชุมชน ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2560-2569) ปี 2568 พบสถานการณ์ด้านสุขภาพของเด็กและเยาวชน เริ่มตั้งแต่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีอัตราการตายของทารกต่อการเกิดมีชีพอยู่ในระดับสูง 8.48 คน ต่อ 1,000 คน กลุ่มทารกแรกเกิด พบมีน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 8.70 เด็กแรกเกิดถึง 3 ปี มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์สูงถึงร้อยละ 9.67 แสดงถึงการขาดโปรตีนและพลังงานอย่างเฉียบพลัน กลุ่มเด็กปฐมวัย  มีพัฒนาการสงสัยล่าช้า ร้อยละ 26.3 กลุ่มเด็กวัยเรียน มีภาวะเตี้ยร้อยละ 8.61 ด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพ เพียงร้อยละ 53.35 ด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ตรวจพบน้ำประปาดื่มได้ผ่านเกณฑ์คุณภาพกรมอนามัย เพียงร้อยละ 36.64 นอกจากนี้ยังพบปัญหาด้านส้วมและการจัดการขยะมูลฝอย ขาดการพัฒนาให้ถูกสุขลักษณะ ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้

ด้านแพทย์หญิงทิพา ไกรลาศ  ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรงานอนามัยโรงเรียน อนามัยสิ่งแวดล้อมในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) และพื้นที่ภูฟ้าพัฒนา (รูปแบบ Hybrid) เพื่อเสริมสร้างทักษะ องค์ความรู้ การดำเนินงานอนามัยโรงเรียน เฝ้าระวังภาวะโภชนาการ ภาวะสุขภาพของเด็กและเยาวชน อนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน แก่ ครู บุคลากรสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย ให้เด็กและเยาวชนถิ่นทุรกันดาร เข้าถึงสิทธิประโยชน์หลักด้านสุขภาพ หากพบความเสี่ยงได้รับการส่งต่อการดูแลรักษาได้ทันท่วงที ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย บุคลากรผู้รับผิดชอบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและงานส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 1-12 สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ศูนย์อนามัย กลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบและแรงงานข้ามชาติ บุคลากรผู้รับผิดชอบงานพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ หน่วยงานภาคีเครือข่าย ต้นสังกัดโรงเรียน 7 หน่วยงาน และผู้เข้าประชุม Online ประกอบด้วยครูอนามัยโรงเรียน จากสถานศึกษาพื้นที่โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน (กพด.) ทุกสังกัด จำนวนกว่า 1,000 คน

 

***

กรมอนามัย /  1 ธันวาคม  2568