กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และผู้สูงอายุ ต้องดูแลเป็นพิเศษ พร้อมย้ำกินอาหารทุกครั้ง ให้สังเกตวันเวลาที่ผลิต และระยะเวลาในการบริโภค พบกลิ่นผิดปกติ เหม็นบูด ควรทิ้งทันที
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนยังคงต้องติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำหรืออยู่ใกล้น้ำ และไม่ปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เนื่องจากผู้สูงอายุสุขภาพร่างกายเสื่อมถอยตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ลดลง เช่น การทรงตัวไม่ดี แขนขาอ่อนแรง มีปัญหาทางสายตา และการได้ยิน อาจทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม ได้รับบาดเจ็บ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
“ทั้งนี้ ในช่วงน้ำท่วมอาจทำให้ผู้ดูแลเด็กและผู้สูงอายุไม่สามารถเดินทางไปซื้ออาหารได้ตามปกติ ส่งผลให้ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม จำเป็นต้องอาศัยอาหารที่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสาจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อได้รับอาหารมา ก่อนกินควรสังเกตวันเวลาที่ผลิต และระยะเวลา ในการบริโภคบนกล่องอาหารถ้ามีการระบุไว้ แต่หากพบว่ามีกลิ่นผิดปกติ เหม็นบูด ควรทิ้งไปอย่าเสียดาย ในกรณีที่จำเป็นต้องบริโภคอาหารแปรรูป ควรตรวจดูสภาพผลิตภัณฑ์ อาทิ สี กลิ่น กระป๋อง หรือภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ต้องไม่ฉีกขาด กระป๋องไม่ปูดบวมหรือเป็นสนิม และสังเกตวันหมดอายุด้วย สำหรับผู้ที่มี โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต ควรดูแลตนเองและระมัดระวังเรื่องอาหารเป็นพิเศษ และต้องกินยาตามอาการอย่างต่อเนื่อง จะช่วยป้องกันความรุนแรงของโรคที่เป็นอยู่ได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
กรมอนามัย / 8 ตุลาคม 2565