Warning: Undefined variable $bg in D:\wwwroot\multimedia\wp-content\themes\anamai_2021_v1_0_1\single.php on line 28
>

เด็กจะก้าวไกลได้…เริ่มต้นที่สายตา

  • 6 พฤษภาคม 2568

🚶‍♀️ เด็กจะก้าวไกลได้…เริ่มต้นที่สายตา 👀✨

🏫 ปิดเทอมเล็ก แม้เวลาจะไม่มากเหมือน ปิดเทอมใหญ่ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ ละเลยปล่อยให้ลูกใช้สายตาไป กับโทรศัพท์ 📱 และ แท๊บแล็ตมากเกินไป สามารถส่งผลเสียต่อสายตาลูก ๆ ได้ในระยะยาว ผู้ปกครองควรมีเคล็ดลับในการถนอมสายตาลูก ๆ จากแสงสีฟ้า ของจอต่าง ๆ ได้ด้วยวิธีการดังนี้
🔸 ผู้ปกครองควรหาแว่นตา หรือใช้ฟิลเตอร์กรองแสงสีฟ้าในขณะใช้งานให้ลูก เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับดวงตา เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
🔸 เตรียมห้องหรือสถานที่ เพื่อให้มีแสงสว่าง ที่เพียงพอต่อการใช้สายตา เพราะการใช้สายตามองจอในที่มืด จะทำให้ดวงตาขยายเพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลมเป่าอยู่ตลอดเวลา เพราะอาจะทำให้ตาแห้งและเกิดอาการตาล้าได้
🔸 ทำตามหลักกฏการใช้สายตา 20-20-20 คือ ใช้สายตากับจอทุกชนิด 20 นาที แล้วควรหยุดพัก 20 นาที โดยมองออกไประยะไกล หรือกระพริบตาเร็ว ๆ 20 ครั้ง เพื่อลดการเพ่งสายตาและผ่อนคลายความตึงเครียด
🔸 เตรียมอาหารที่มีสารอาหารบำรุงสายตาระหว่างวันให้ลูก เช่น Omega 3 Fatty Acid พบได้ในปลาจำพวก ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคคอเรล ปลาแฮร์ริง หรือในเมล็ดพืชบางชนิด เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง วอลนัต เป็นต้น ส่วน Lutein และ Zeaxanthin พบมากในไข่แดง และผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ปวยเล้ง และ บรอคโคลี่
📍 นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว กรมอนามัย ขอแนะนำให้ผู้ปกครองควรพาลูก ๆ ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพตาที่ดีและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย และอย่าลืมออกกำลังกายเสริมด้วยการกินอาหารที่ถูกหลักอนามัยด้วยนะคะ
📎 การเรียนรู้ที่ดีมากกว่า 80% เกิดจาการมองเห็น เพราะ การมองเห็นที่ดีเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ และพัฒนาสมอง บุคลิกภาพ รวมถึงคุณภาพชีวิตของเด็กทุกคนในเด็กอายุ 3-12 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อการพัฒนาการทางสายตา หากมีภาวะสายตาผิดปกติและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวจนถึงขั้นพิการทางสายตาได้ค่ะ
 
📍 ด้วยรักและห่วงใย อยากให้คนไทยสุขภาพดี จาก กรมอนามัย 💖📌 อย่าลืมกดติดตาม Facebook กรมอนามัย เพื่อติดตามซีรีย์สาระสุขภาพจากเรา
https://www.facebook.com/anamaidoh

และอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อ ติดตามสาระความรู้สุขภาพควบคู่ไปกับความบันเทิง เพิ่มเติมได้ที่
https://www.tiktok.com/@health.anamai.thailand และ https://www.tiktok.com/@healthyoffice.thailand 

 
#สาระสุขภาพ 
© DEPARTMENT OF HEALTH : MINISTRY OF PUBLIC HEALTH